ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 94.86 เยน จากระดับของวันศุกร์ที่ 94.29 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9245 ฟรังค์ จากระดับ 0.9224 ฟรังค์
ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3342 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3340 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.5694 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5704 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 0.9528 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9600 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินดอลลาร์ได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจจะลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตร หลังจากนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดได้ส่งสัญญาณเมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า การลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ อาจจะมีขึ้นในการประชุมในอีกไม่กี่ครั้งข้างหน้า หากตลาดแรงงานของสหรัฐฟื้นตัวขึ้น
ทั้งนี้ การประชุมระยะเวลา 2 วันของเฟดจะมีขึ้นในวันอังคารที่ 18 มิ.ย.และเสร็จสิ้นในวันพุธที่ 19 มิ.ย.
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า มีสัญญาณบ่งชี้ว่าเบอร์นันเก้อาจจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนว่า การลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรของเฟดจะไม่ดำเนินการควบคู่ไปกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ สกุลเงินดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยเฟดสาขานิวยอร์กรายงานว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นแตะ 7.84 จาก -1.43 ในเดือนพ.ค. ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาวะทางธุรกิจของภาคการผลิตในนิวยอร์กได้กลับมาขยายตัวอีกครั้งในเดือนนี้
ขณะที่สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐ เปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านสหรัฐในเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้นแตะ 52 จาก 44 ในเดือนพ.ค. โดยดัชนีได้ปรับตัวเหนือระดับ 50 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2549 หรือในรอบ 7 ปี นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านในเดือนมิ.ย.ออกมาสูงกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ที่ระดับ 45 และแตะระดับสูงสุดนับแต่เดือนมี.ค.2549
นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค.ในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าดัชนี CPI ทั่วไปจะเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ค. และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 0.2%