เงินบาทเปิด 30.68/70 แกว่งกรอบแคบ รอความชัดเจนมาตรการ QE จากเฟด

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 18, 2013 09:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 30.68/70 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากเย็นวานนี้ที่ระดับ 30.64/66 บาท/ดอลลาร์ คาดวันนี้เงินบาทจะแกว่งตัวแคบๆ ในกรอบ 30.65-30.75 บาท/ดอลลาร์
"เงินบาทแกว่งตัวแคบๆ ในกรอบตามการเปลี่ยนแปลงของดอลลาร์ นักลงทุนรอผลประชุมเฟด" นักบริหารเงิน กล่าว

เนื่องจากนักลงทุนรอดูผลประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในวันที่ 18-19 มิ.ย.นี้ว่าจะตัดสินใจเรื่องมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) อย่างไร

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะแกว่งตัวแคบๆ ในกรอบ 30.65-30.75 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 94.67/68 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 94.85/89 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3360 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.3340/3344 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 30.6510 บาท/ดอลลาร์
  • แบงก์แข่งระดมเงินฝากเดือดไทยพาณิชย์เจาะคนรุ่นใหม่ส่ง "SCB UP2ME" ตั้งเป้าเพิ่มรากฐานลูกค้า 20% ชูออมเพื่อกู้ซื้อบ้าน-รถยนต์ในอนาคต ด้าน ME by TMB ส่งเงินฝากไม่ประจำดอกเบี้ยสูง 3.75% ไม่จำกัดวงเงินขั้นต่ำ
  • นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ เปิดเผยว่า ประเมินว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ปีนี้น่าจะอยู่ที่ 2-3% ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตในระดับดีแล้ว จากรัฐบาลเคยประมาณการจะเติบโต 5.5%
  • นายวิศิษฐ์ องค์พิพัฒน์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนิตี้ จำกัดเปิดเผยว่า คาดว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของประเทศสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 18-19 มิ.ย. นี้จะมีการส่งสัญญาณการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และอาจจะมีการชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE)ด้วยการลดขนาดการซื้อสินทรัพย์หรือพันธบัตรลง
  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดว่าปี 2556 และ 2557 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ที่ร้อยละ 4.75 และ 5.25 ตามลำดับ โดยมีแรงขับเคลื่อนสำคัญจากอุปสงค์ภาคเอกชนที่ขยายตัวในเกณฑ์ดีและการเร่งใช้จ่ายของภาครัฐ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจยังมีอยู่โดยเฉพาะจากปัจจัยภายนอก ขณะที่การเมืองในประเทศมีเสถียรภาพมากขึ้นและส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน อย่างไรก็ดีความผันผวนของเงินทุนเคลื่อนย้ายจะเป็นความเสี่ยงเพิ่มเติมต่อเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้(17 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขาย พร้อมกับจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ซึ่งจะทราบผลในวันพุธนี้ โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX(Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ส.ค.ร่วงลง 4.5 ดอลลาร์ หรือ 0.32% ปิดที่ 1,383.1 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้(17 มิ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตร ในการประชุมสัปดาห์นี้ โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.ขยับลง 8 เซนต์ ปิดที่ 97.77 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือน ก.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 46 เซนต์ หรือ 0.43% ปิดที่ 105.47 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 มิ.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินว่าเฟดจะปรับลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรหรือไม่ โดยดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.7% ปิดที่ 293.25 จุด, ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,330.49 จุด เพิ่มขึ้น 22.23 จุด หรือ +0.35%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,215.73 จุด เพิ่มขึ้น 87.77 จุด หรือ +1.08%, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,863.66 จุด เพิ่มขึ้น 58.50 จุด หรือ +1.54%
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ยกเว้นยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ เพราะได้แรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจจะลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตร โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 94.86 เยน จากระดับของวันศุกร์ที่ 94.29 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9245 ฟรังค์ จากระดับ 0.9224 ฟรังค์ ส่วนค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3342 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3340 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.5694 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5704 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 0.9528 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9600 ดอลลาร์สหรัฐ
  • ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวดีดตัวขึ้น 76.92 จุด หรือ 0.59% แตะที่ 13,110.04 จุด หลังจากตลาดเปิดทำการได้เพียง 15 นาทีในวันนี้ เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 109.67 จุด หรือ 0.73% ปิดที่ 15,179.85 จุดในการซื้อขายเมื่อคืนนี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยเฟดสาขานิวยอร์กรายงานว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือน มิ.ย.เพิ่มขึ้นแตะ 7.84 จาก -1.43 ในเดือน พ.ค. ซึ่งแสดงให้เห็นว่าภาวะทางธุรกิจของภาคการผลิตในนิวยอร์กได้กลับมาขยายตัวอีกครั้งในเดือนนี้
  • ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวผันผวนในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมระยะเวลา 2 วันของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันนี้ โดยดัชนี MSCI Asia Pacific Index แทบไม่เปลี่ยนแปลงที่ 132.42 จุด เมื่อเวลา 09:46 น.ตามเวลาโตเกียวในวันนี้, ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดที่ 4,823.70 จุด ลดลง 2.20 จุด หรือ -0.05%, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ 13,015.15 จุด ลดลง 17.97 จุด หรือ -0.14%, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดที่ 1,887.72 จุด เพิ่มขึ้น 4.62 จุด หรือ +0.25% ดัชนี TAIEX, ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดที่ 7,994.81 จุด เพิ่มขึ้น 1.92 จุด หรือ +0.02%, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,769.58 จุด ลดลง 2.59 จุด หรือ -0.15%, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดที่ 3,198.00 จุด เพิ่มขึ้น 14.56 จุด หรือ +0.46% ดัชนี HSI และตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ 21,102.60 จุด ลดลง 123.30 จุด หรือ -0.58%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ