ทั้งนี้ ยอดการนำเข้าขยายตัว 10.0% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 6.7616 ล้านล้านเยน ซึ่งเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 หลังจากยอดการนำเข้าน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.4% และยอดนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว เพิ่มขึ้น 8.2%
ส่วนการส่งออก ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของการเติบโตทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น พุ่งขึ้น 10.1% แตะที่ 5.7676 ล้านล้านเยน ทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 แต่ก็ไม่สามารถชดเชยผลกระทบที่เกิดจากการนำเข้าในอัตราที่สูงขึ้นได้ เนื่องจากเงินเยนร่วงลงอย่างหนัก โดยกระทรวงการคลังระบุว่า ในเดือนพ.ค.เงินเยนร่วงลงราว 23.4% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
รายงานของกระทรวงระบุว่า ยอดการส่งออกสินค้าจากญี่ปุ่นไปยังจีน ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่สุดของญี่ปุ่นนั้น ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.3% แตะระดับ 1.0465 ล้านล้านเยน ซึ่งปรับขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 เนื่องจากผลกระทบอันเกิดจากข้อพิพาทแย่งชิงดินแดนในหมู่เกาะทางทะเลจีนเหนือ ได้เริ่มบรรเทาลง ขณะเดียวกันจีนได้นำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 14.6% แตะระดับ 1.4564 ล้านล้านเยน
ส่วนยอดส่งออกจากญี่ปุ่นไปยัง 27 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ลดลง 4.9% แตะที่ 5.291 แสนล้านเยนในเดือนพ.ค. ทำสถิติลดลงติดต่อกันยาวนานถึง 20 เดือน เนื่องจากเศรษฐกิจอียูยังคงซบเซา แม้ว่าญี่ปุ่นมียอดนำเข้าสินค้าจากอียูเพิ่มขึ้น 8.7% แตะที่ 6.178 แสนล้านเยน
ญี่ปุ่นส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐเพิ่มขึ้น 16.3% แตะที่ 1.0413 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 ขณะที่ญี่ปุ่นนำเข้าสินค้าจากสหรัฐเพิ่มขึ้น 10.2% แตะที่ 6.141 แสนล้านเยน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน