(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิด 31.03/05 อ่อนค่ามากจากวานนี้ หลังประธานเฟดส่งสัญญาณชะลอ QE

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday June 20, 2013 11:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.03/05 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงไปมากจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 30.66/69 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเช้านี้ปรับตัวอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว หลังจากเมื่อคืนประธานธนาคารกลางสหรัฐ(FED) ออกมาระบุภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(FOMC)ว่า จะเริ่มชะลอโครงการซื้อพันธบัตร หรือชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) ในปลายปีนี้ หากเศรษฐกิจฟื้นตัวตามที่คาดการณ์ไว้

"หลังจากที่ประธานเฟดออกมาพูดแบบนี้ ทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นทันที และบาทก็อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว ทะลุ 31 บาทขึ้นไปอีก แนวโน้มวันนี้มองว่าน่าจะยังอ่อนค่าต่อ เพราะน่าจะยังมีแรงซื้อดอลลาร์อยู่เรื่อยๆ" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.00-31.19 บาท/ดอลลาร์ โดยวันนี้คงต้องติดตามทิศทางการเคลื่อนไหวของเงินทุนที่เข้า-ออกในตลาดหุ้นไทย ถ้าดัชนีหุ้นไทยลดลงมาก หรือมีการขายบอนด์มาก ก็จะเป็นแรงกดดันให้บาทอ่อนค่าได้อีก

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ 30.9800 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ 2.14962%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เปิดตลาดเช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 96.42/43 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 95.05 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3268/3270 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 13390 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 30.8940 บาท/ดอลลาร์
  • นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เผยตลาดหุ้นไทยร่วงลงแรงในช่วงเช้าวันนี้สอดคล้องกับตลาดหุ้นภูมิภาคและตลาดหุ้นสหรัฐ ตอบรับผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(FED)ที่ระบุว่าจะมีการชะลอมาตรการ QE ในช่วงสิ้นปีนี้ และอาจจะยุติลงในช่วงกลางปีหน้า ซึ่งในแง่หนึ่งก็เห็นว่าสร้างความชัดเจนแล้ว หลังจากตลาดได้แต่คาดการณ์กันมาระยะหนึ่ง และถึงแม้จะมีเงินที่ไหลออกจากตลาดหุ้นไทยแต่ก็เป็นระดับที่รับได้ และเชื่อว่าจะไม่ทำให้เกิดการ panic sell ตามมา ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้นยังดี และเชื่อว่าบริษัทจดทะเบียนของไทยยังสามารถทำกำไรท่ามกลางสถานการณ์ผันผวนได้
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นมากเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ หลังจากนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า หากข้อมูลเศรษฐกิจที่เฟดจะได้รับในวันข้างหน้านั้นบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจฟื้นตัวตามที่คาดการณ์ไว้ ก็เป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะชะลอโครงการซื้อพันธบัตร หรือชะลอการทำ QE ภายในปีนี้ และหากข้อมูลเศรษฐกิจยังคงออกมาสอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้ เฟดก็จะยังคงลดขนาดวงเงินซื้อพันธบัตรไปจนถึงช่วงครึ่งแรกของปีหน้า และจะสิ้นสุดโครงการซื้อพันธบัตรประมาณกลางปีหน้า
  • ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น(fed funds rate)ที่ระดับ 0-0.25% พร้อมย้ำว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไป และจะยังคงเดินหน้าโครงการซื้อสินทรัพย์ในวงเงินปัจจุบันที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยเฟดคาดการณ์ว่าในปีนี้เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวได้ 2.3-2.6% ส่วนปีหน้าคาดว่าจะขยายตัว 3-3.5%
  • คืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 มิ.ย. โดยตลาดคาดการณ์ว่าจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์จะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 340,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 334,000 ราย
  • นอกจากนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติจะรายงานยอดขายบ้านมือสองเดือน พ.ค.ซึ่งมีการคาดการณ์ว่ายอดขายบ้านมือสองจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 5 ล้านยูนิต
  • ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ออกแถลงการณ์ภายหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(FOMC)ว่า เฟดจะเริ่มชะลอโครงการซื้อพันธบัตร หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) ในปลายปีนี้ หากเศรษฐกิจฟื้นตัวตามที่คาดการณ์ไว้
  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) เรียกร้องให้รัฐบาลสเปนดำเนินการปฏิรูปมากขึ้นในตลาดแรงงาน เพื่อจัดการกับปัญหาว่างงาน เนื่องจากการปฏิรูปด้านแรงงานที่รัฐบาลสเปนได้ดำเนินงานเมื่อปีที่แล้วได้ช่วยให้สถานการณ์ปรับตัวดีขึ้น แต่ยังไม่เพียงพอที่จะหนุนการจ้างงาน โดยอัตราว่างงานของสเปนอยู่ที่ 27.16% ในช่วงไตรมาสแรกปี 2556 โดยมีผู้ตกงานกว่า 6 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ IMF ระบุว่าสูงเกินกว่าจะยอมรับได้
  • เอชเอสบีซีโฮลดิงส์ เผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือน มิ.ย.ลดลงแตะ 48.3 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน และต่ำกว่าดัชนี PMI ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายในเดือน พ.ค.ที่ 49.2
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) เดือน ก.ค.ร่วงลง 89 เซนต์ แตะที่ 97.35 ดอลลาร์/บาร์เรล ในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดเอเชียช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างผิดคาด และหลังจากเฟดส่งสัญญาณจะลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรภายในปีนี้
  • ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีปิดภาคเช้าทรงตัว เนื่องจากการประกาศซื้อสินทรัพย์ของธนาคารกลางญี่ปุ่นเมื่อวานนี้ได้กระตุ้นให้เกิดแรงซื้อในตลาดพันธบัตร หลังจากช่วงเช้ามีแรงขายเข้ามาในตลาดพันธบัตรอันเนื่องมาจากราคาพันธบัตรสหรัฐลดลงเมื่อคืนนี้ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรหมายเลข 329 ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราดอกเบี้ยระยะยาว ปิดที่ 0.810% ทรงตัวจากระดับปิดเมื่อวานนี้ และราคาสัญญาพันธบัตรอายุ 10 ปีส่งมอบเดือน ก.ย. ลดลง 0.10 จุด ปิดที่ระดับ 142.89 ในตลาดหุ้นโตเกียว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ