ศูนย์วิจัยทองคำชี้สัญญาณเฟดชะลอมาตรการ QE กดดันราคาทองคำตลาดโลก

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday June 20, 2013 15:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์วิจัยทองคำประเมินหลังคณะกรรมการนโยบายทางการเงินสหรัฐเผยความเป็นไปได้ในการชะลอมาตรการในอนาคต ทำให้ราคาทองคำในตลาดโลกอ่อนตัวและกระทบราคาสินทรัพย์เสี่ยง โดยเชื่อไตรมาส 4 ถึงไตรมาส 1 ปีหน้าเห็นสัญญาณชัด ส่วนทองคำในประเทศน่าจะอ่อนตัวน้อยกว่าทองคำในตลาดโลกเนื่องจากสัญญาณชะลอมาตรการจะทำให้ดอลล่าร์สหรัฐฯ แข็งค่าเทียบสกุลเงินอื่น และส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่า

นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยว่า แม้ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐอเมริกาจะเป็นไปตามคาดการณ์ว่าเฟดจะยังคงมาตรการทั้งนโยบายดอกเบี้ยต่ำและการซื้อสินทรัพย์ แต่การส่งสัญญาณชะลอมาตรการในอนาคตก็มีผลมากพอที่จะทำให้ตลาดตอบรับในเชิงลบ โดยจะเห็นว่าราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวลดลงไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้น ราคาทองคำ ราคาน้ำมัน

ขณะที่สกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ มีการปรับตัวแข็งค่าขึ้นเทียบสกุลเงินหลัก โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นทันทีกว่า 15 basis point หรือประมาณ 6.5% หลังทราบผล สะท้อนนักลงทุนตอบสนองต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยประเมินว่าสัญญาณจะเริ่มเห็นชัดขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี หรืออย่างช้าในช่วงไตรมาสแรกของปี 2557 โดยเหตุผลที่เชื่อว่าจะอยู่ในช่วงเวลาดังกล่าวมาจาก 3 สาเหตุสำคัญ คือ

ประการแรก เชื่อว่าเฟดจะรอสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ชัดเจนกว่าในปัจจุบัน จากการประเมินเศรษฐกิจที่วัดจากการเติบโตของ GDP ในช่วง 2.3-2.6% สะท้อนว่าเฟดมีมุมมองต่อเศรษฐกิจในปี 2556 ว่าอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ตัวเลขการฟื้นตัวในตลาดการจ้างงานยังเติบโตในอัตราส่วนที่ช้าเกินไปจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 6.5% ขณะที่ผลกระทบจากการชะลอมาตรการในขณะที่เศรษฐกิจยังพึ่งตัวเองไม่ได้อาจจะส่งผลร้ายในระยะยาว ดังนั้นการถอนมาตรการในขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวในระดับที่น่าพอใจจึงอาจจะยังไม่ใช่จังหวะเวลาที่ดี

ประการที่สอง ความต้องการสภาพคล่องลดลงจากการตัดรายจ่ายอัตโนมัติของรัฐบาลสหรัฐ(sequestration) ทำให้ความจำเป็นในการใส่สภาพคล่องในอนาคตลดลง จึงเชื่อได้ว่าการลดขนาดของ QE ในช่วงปลายปีมีความสมเหตุสมผล โดยจำนวนการตัดลดรายจ่ายในปีนี้ประมาณ 8.5 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ

ประการสุดท้าย ความเป็นไปได้ที่นายเบน เบอร์นันเก้ อาจจะไม่ได้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดต่อหลังครบวาระในปีหน้า จึงน่าจะเป็นเวลาที่สอดคล้องกันกับการหมดวาระของประธานเฟด และการลดนโยบายสภาพคล่องลง

นายกมลธัญ กล่าวต่อว่า เมื่อประเมินทิศทางราคาทองคำหลังสัญญาณการชะลอมาตรการ QE เชื่อว่าจะสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำในตลาดโลกจากการระบายสถานะและเข้าถือดอลล่าร์สหรัฐฯ เพราะการชะลอมาตรการจะทำให้ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ มีแนวโน้มที่แข็งค่าขึ้น แต่เชื่อว่าการอ่อนตัวลงจะไม่รุนแรงมากนัก เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังมีความเสี่ยงด้านอื่น ประกอบกับการอ่อนตัวลงของราคาทองคำจะกระตุ้นความต้องการซื้อเพื่อการบริโภคเพิ่มมากขึ้น

โดยเชื่อว่าราคาทองคำตลาดโลกในระยะสั้นจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,300-1,450 เหรียญต่อออนซ์ ส่วนราคาทองคำในประเทศจะได้รับแรงหนุนจากทิศทางค่าเงินบาทที่อ่อนค่าเทียบสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ จากผลกระทบของความวิตกการชะลอมาตรการ QE ทำให้ราคาทองคำในประเทศจะปรับตัวลดลงน้อยกว่าทองคำในตลาดโลก โดยช่วงครึ่งหลังของปีตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเป็นประเด็นสำคัญต่อการลงทุนในทองคำรวมถึงสินทรัพย์อื่น เพราะจะเป็นเงื่อนไขในการพิจารณาการลดหรือไม่ลดมาตรการ QE ต่อไป

ขณะที่ราคาทองในประเทศวันนี้ เคลื่อนไหวผันผวน จากราคาในช่วงเช้าที่ยังสามารถปรับขึ้นได้ แต่พอมาในช่วงสายราคาทองได้ทยอยปรับลดลงรวม 550 บาท โดยล่าสุดราคาเมื่อเวลา 15.06 น. ซึ่งเป็นการปรับเป็นรอบที่ 10 ของวัน ราคาทองคำแท่ง รับซื้ออยู่ที่บาทละ 19,300 ขายออก บาทละ 19,400 ขณะที่ทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 19,025.80 ขายออก บาทละ 19,800


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ