ปัจจัยหลักที่ทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงในวันนี้มาจากกรณีถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่ออกมาส่งสัญญาณทยอยลดมาตรการ QE ภายในสิ้นปีนี้หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวตามที่คาดการณ์ไว้ และคาดว่าพรุ่งนี้เงินบาทก็ยังมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อได้ เพราะดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 30.90-31.38 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- ปิดตลาดเย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 97.99/98.02 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 96.42/43 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3193/3195 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3268/3270 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,402.19 จุด ลดลง 35.51 จุด, -2.47%
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 6,356.25 ลบ.(SET+MAI)
- นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ รองผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดว่า เงินทุนเคลื่อนย้ายจะไหลออกมากขึ้น หลังจากเฟดเตรียมปรับลดระดับของมาตรการ QE แต่ธปท.จะติดตามการเคลื่อนย้ายเงินทุนต่างประเทศอย่างใกล้ชิด หากพบว่ามีการเคลื่อนไหวแรงและเร็วจนกระทบกับภาพรวมเศรษฐกิจ ธปท.พร้อมดูแลตามความเหมาะสมต่อไป
- ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดวันนี้ร่วงลง หลังจากที่เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐระบุว่า เฟดอาจจะยุติการซื้อพันธบัตรในปีหน้า หากเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งขึ้นสอดคล้องกับคาดการณ์ นอกจากนี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนมิ.ย.ลดลงแตะ 48.3 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงร่วงลง 520 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 12,230 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,322.95 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 56.25 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้
- ขณะที่ราคาทองคำในประเทศผันผวนตลอดทั้งวัน โดยวันนี้ราคาปรับขึ้น-ลงถึง 15 ครั้ง จากช่วงเช้าทองคำแท่ง ขายออกบาทละ 19,750 ขณะที่ล่าสุดช่วงเย็นทองคำแท่ง ขายออกบาทละ 19,150 ลดลงในวันเดียวถึง 800 บาท
- ด้านนายกสมาคมค้าทองคำ เผยสถานการณ์ราคาทองคำที่ผันผวนปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงบ่ายวันนี้เกิดจากการทุบราคาของกองทุนต่างชาติที่เคยเกิดขึ้นเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ประกอบกับค่าเงินบาทที่ผันผวนเป็นแรงหนุนให้สถานการณ์ราคาทองคำในประเทศมีการเปลี่ยนแปลงเร็วมาก
- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ), คณะกรรมาธิการยุโรป และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) หรือกลุ่มทรอยก้า จะยุติการหารือด้านนโยบายกับรัฐบาลกรีซชั่วคราวในเรื่องการให้เงินช่วยเหลือประเทศ หลังจากที่การดำเนินงานที่ผ่านมามีความคืบหน้าอย่างมาก