สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 87.8 ดอลลาร์ หรือ 6.39% ปิดที่ 1,286.2 ดอลลาร์/ออนซ์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 19.823 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 1.800 ดอลลาร์ ส่วนสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 7.9 เซนต์ ปิดที่ 3.062 ดอลลาร์/ปอนด์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 1363.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ดิ่งลง 60.10 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 665.10 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 31.30 ดอลลาร์
สัญญาทองคำร่วงลงอย่างหนักหลังจากเบอร์นันเก้ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมระยะเวลา 2 วันเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า เฟดจะเริ่มชะลอโครงการซื้อพันธบัตร หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในปลายปีนี้ หากเศรษฐกิจฟื้นตัวตามที่คาดการณ์ไว้
เบอร์นันเก้กล่าวว่า หากข้อมูลเศรษฐกิจที่เฟดจะได้รับในวันข้างหน้านั้นบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจฟื้นตัวตามที่คาดการณ์ไว้ ก็เป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะชะลอโครงการซื้อพันธบัตร หรือชะลอกการทำ QE ภายในปีนี้ และหากข้อมูลเศรษฐกิจยังคงออกมาสอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้ เฟดก็จะยังคงลดขนาดวงเงินซื้อพันธบัตรไปจนถึงช่วงครึ่งแรกของปีหน้า และจะสิ้นสุดโครงการซื้อพันธบัตรประมาณกลางปีหน้า
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานขั้นต้นในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 มิ.ย.เพิ่มขึ้น 18,000 ราย สู่ระดับ 354,000 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นสู่ระดับ 340,000 ราย
นักวิเคราะห์ของยูบีเอส เอจี ในกรุงลอนดอน คาดการณ์ว่า ราคาทองคำอาจจะร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 1,250 ดอลลาร์/ออนซ์ จากก่อนหน้านี้ที่คาดว่าราคาทองจะยืนอยู่ที่ระดับ 1,425 ดอลลาร์/ออนซ์ นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังได้ปรับลดคาดการณ์ราคาทองคำในระยะเวลา 3 เดือน ลงมาอยู่ที่ระดับ 1,350 ดอลลาร์/ออนซ์ จากระดับ 1,500 ดอลลาร์/ออนซ์ และยังได้ปรับลดคาดการณ์ราคาทองคำในปี 2556 ลงสู่ระดับ 1,440 ดอลลาร์/ออนซ์ จากระดับ 1,600 ดอลลาร์/ออนซ์