ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลลาร์พุ่งเทียบสกุลหลักๆ หลังปธ.เฟดส่งสัญญาณลด QE

ข่าวต่างประเทศ Friday June 21, 2013 07:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐทะยานขึ้นแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (20 มิ.ย.) หลังจากนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจเริ่มลดขนาดการซื้อพันธบัตรในปลายปีนี้ นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนจากรายงานยอดขายบ้านมือสองที่พุ่งขึ้นเกินคาดของสหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบเงินเยนที่ระดับ 97.24 เยน จากระดับของวันพุธที่ระดับ 96.41 เยน แต่ขยับลงเล็กน้อยเมื่อเทียบฟรังค์สวิสที่ 0.9278 ฟรังค์ จากระดับ 0.9299 ฟรังค์ ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.3196 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3274 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.5478 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5486 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงแตะระดับ 0.9175 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9344 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นหลังจากเบอร์นันเก้ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมระยะเวลา 2 วันเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า เฟดจะเริ่มชะลอโครงการซื้อพันธบัตร หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในปลายปีนี้ หากเศรษฐกิจฟื้นตัวตามที่คาดการณ์ไว้

เบอร์นันเก้กล่าวว่า หากข้อมูลเศรษฐกิจที่เฟดจะได้รับในวันข้างหน้านั้นบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจฟื้นตัวตามที่คาดการณ์ไว้ ก็เป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะชะลอโครงการซื้อพันธบัตร หรือชะลอกการทำ QE ภายในปีนี้ และหากข้อมูลเศรษฐกิจยังคงออกมาสอดคล้องกับที่คาดการณ์ไว้ เฟดก็จะยังคงลดขนาดวงเงินซื้อพันธบัตรไปจนถึงช่วงครึ่งแรกของปีหน้า และจะสิ้นสุดโครงการซื้อพันธบัตรประมาณกลางปีหน้า

ทั้งนี้ เบอร์นันเก้ได้แถลงมุมมองดังกล่าว แม้ว่าคณะกรรมการเฟดระบุว่า เฟดจะยังคงเดินหน้าโครงการซื้อสินทรัพย์ในวงเงินปัจจุบันที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจก็ตาม

นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนหลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) รายงานว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 4.2% แตะระดับ 5.18 ล้านยูนิตต่อปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีครึ่ง ขณะที่ราคากลางของบ้านมือสองทะยานขึ้น 15.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะระดับ 208,000 ดอลลร์ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งสุดนับตั้งแต่ปี 2548 สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานเริ่มฟื้นตัวขึ้น และมีแนวโน้มที่จะช่วยหนุนเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวแข็งแกร่งในปีนี้ด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ