การแสดงความคิดเห็นดังกล่าวมีขึ้นหลังจากนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดได้ออกมาส่งสัญญาณภายหลังการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า เฟดอาจจะเริ่มชะลอโครงการซื้อพันธบัตร หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในปลายปีนี้ หากเศรษฐกิจฟื้นตัวตามที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวได้สร้างแรงกดดันอย่างหนักต่อตลาดเกิดใหม่เมื่อวานนี้
อย่างไรก็ตาม แคปิตอล อิโคโนมิคส์มองว่า การที่เฟดลดขนาดโครงการ QE และการใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินในเวลาต่อมานั้น จะส่งผลกระทบไม่มากนักต่อตลาดเกิดใหม่ โดยให้เหตุผล 3 ข้อคือ หนึ่ง การยกเลิกใช้นโยบายหนุนเศรษฐกิจในสหรัฐนั้น อาจจะทำแบบค่อยเป็นค่อยไป ประการที่สอง ในปัจจุบันประเทศตลาดเกิดใหม่ส่วนใหญ่มีความอ่อนไหวต่อภาวะตกต่ำด้านการเงินในต่างประเทศ น้อยกว่าในอดีต
ส่วนประการสุดท้าย การที่เฟดจะใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินก็เพราะต้องการหนุนเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งการดำเนินการเช่นนี้จะช่วยหนุนเศรษฐกิจของตลาดเกิดใหม่หลายประเทศ โดยเฉพาะเม็กซิโก
นอกจากนี้ แคปิตอล อิโคโนมิคส์ ระบุว่าประเทศต่างๆที่ต้องพึ่งพาการเงินจากต่างประเทศจำนวนมากนั้น กำลังตกอยู่ในภาวะเปราะบาง แต่ประเทศตลาดเกิดใหม่ส่วนใหญ่ได้ลดการพึ่งพาเงินกู้จากต่างประเทศในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา สำนักข่าวซินหัวรายงาน