กรุงเทพโพลล์ระบุนโยบายประชานิยมส่งผลของแพงขึ้น-ปัญหาจราจร-เอื้อทุจริต

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 25, 2013 10:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ หรือกรุงเทพโพลล์ เปิดผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่อง“เสียงสะท้อนคนกรุงเทพและปริมณฑลกับผล 2 ปี นโยบายประชานิยม"พบว่า ภาพรวมประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 56.8 เห็นว่านโยบายประชานิยมเด่นๆ ที่หาเสียงไว้ของรัฐบาลนายกฯ ยิ่งลักษณ์ เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ ขณะที่ร้อยละ 43.2 เห็นว่าไม่เกิดประโยชน์

ทั้งนี้ นโยบายที่เห็นว่าเกิดประโยชน์กับประเทศชาติมากที่สุดคือ จบปริญญาตรีเงินเดือนเริ่มต้น 15,000 บาท ขณะที่นโยบายที่เกิดประโยชน์น้อยที่สุด คือ คืนภาษีให้ผู้ซื้อรถคันแรก

เมื่อมองนโยบายประชานิยมที่เกิดประโยชน์กับตัวผู้ตอบเองพบว่า ในภาพรวมร้อยละ 58.2 ระบุว่า “ไม่ได้ประโยชน์เลย" ขณะที่ร้อยละ 34.9 ระบุว่า “ได้ประโยชน์" โดยนโยบายประชานิยมที่ตัวผู้ตอบเองเห็นว่าได้ประโยชน์มากที่สุดคือ ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ขณะที่นโยบายที่ได้ประโยชน์กับตัวเองน้อยที่สุดคือ จำนำข้าวเปลือกเจ้าตันละ 15,000 บาท และข้าวหอมมะลิตันละ 20,000 บาท

ส่วนความเห็นต่อนโยบายประชานิยมเด่นๆ ของรัฐบาลเกิดผลกระทบอย่างไรกับตัวผู้ตอบหรือต่อสังคม พบว่าอันดับแรกคือข้าวของแพงขึ้นกว่าเดิม (ร้อยละ 77.5) รองลงมาคือ การจราจรติดขัดมากขึ้น (ร้อยละ 64.1) และก่อหนี้ให้กับประชาชน (ร้อยละ 54.5) ขณะที่ร้อยละ 6.9 ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ

เมื่อถามประชาชนว่าเห็นด้วยหรือไม่กับการลดราคาจำนำข้าวจาก 15,000 บาทเหลือ 12,000 บาทต่อตัน พบว่า ร้อยละ 50.4 ไม่เห็นด้วยเพราะจะเกิดความเสียหายแก่ชาวนา ขณะที่ร้อยละ 19.8 เห็นด้วยเพราะจะช่วยลดการขาดทุนของรัฐบาล และร้อยละ 29.8 ไม่แน่ใจ

สุดท้ายเมื่อถามว่านโยบายประชานิยมของรัฐบาลเอื้อให้เกิดการทุจริตมากน้อยเพียงใด ร้อยละ 69.7 ระบุว่า มากถึงมากที่สุด ขณะที่ร้อยละ 30.3 ระบุว่า น้อยถึงน้อยที่สุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ