กกพ.แนะเปิดเสรีก๊าซธรรมชาติ หนุนกฟผ.โดดร่วมแข่งขันหวังสร้างราคาเหมาะสม

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 25, 2013 17:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางพัลลภา เรืองรอง กรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ได้บรรยายพิเศษ เรื่อง "การแข่งขันเสรีก๊าซธรรมชาติ...กับโอกาสของ กฟผ." โดยกล่าวว่า โครงสร้างกิจการก๊าซธรรมชาติของประเทศไทยในปัจจุบัน ทั้งด้านการจัดหาและระบบท่อส่งก๊าซ มี บมจ.ปตท. (PTT) และบริษัทในเครือเป็นผู้ให้บริการหลัก โดยใช้โครงสร้างราคาก๊าซแบบคำนวณรวมจากทุกแหล่งเป็นราคาเดียว ส่งผลให้แม้ในระยะหลังที่มีการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG)จากต่างประเทศ ซึ่งมีราคาแพงมาใช้ แต่ราคารวมในประเทศก็ยังไม่สูงมากนัก เนื่องจาก LNG คิดเป็นสัดส่วนเพียง 3% ขณะที่การใช้ก๊าซจากอ่าวไทยซึ่งมีราคาถูกคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 80%

แต่ในอนาคตเมื่อสัญญาซื้อก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยสิ้นสุดลง ราคาในการเจรจาครั้งใหม่จะไม่ถูกเหมือนปัจจุบัน ดังนั้นราคาค่าไฟฟ้าในอนาคตหลังหมดสัญญาก๊าซในอ่าวไทยคงไม่ต่ำกว่า 4 บาท/หน่วย โดยที่ผ่านมาคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ได้พยายามดูแลโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติให้เป็นธรรม ซึ่งบางส่วนก็เป็นเรื่องยากที่จะกำหนดราคาที่เหมาะสม เนื่องจากที่ผ่านมาราคาก๊าซธรรมชาติถูกผูกขาดโดย ปตท. ดังนั้นภายใต้การแข่งขันเสรี กลไกของตลาดจะมีส่วนช่วยให้ราคาก๊าซฯ เป็นไปอย่างเหมาะสมได้

ซึ่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ.2550 เปิดโอกาสให้มีการแข่งขันอยู่แล้ว จะเห็นได้จากใบอนุญาตประกอบกิจการที่เกี่ยวข้องกับก๊าซธรรมชาติทุกประเภท ได้เปิดกว้างให้ผู้ที่สนใจสามารถยื่นขอใบอนุญาตได้โดยไม่ปิดกั้น และกำหนดให้ผู้ที่เป็นเจ้าของท่อก๊าซต้องยินยอมให้ผู้ประกอบการรายอื่นสามารถใช้ท่อก๊าซได้ ดังนั้นจึงสอดคล้องกับนโยบายของ รมว.พลังงานคนปัจจุบันที่ต้องการเห็นการแข่งขันอย่างเสรี

โดยล่าสุด กกพ.อยู่ระหว่างการจัดทำกฎหมายลูก รวมถึงการออกกฎระเบียบปฏิบัติ และคู่มือรายละเอียดที่ชัดเจน ขณะที่ ปตท.ในฐานะเจ้าของท่อก๊าซ ก็เริ่มจัดทำเงื่อนไขในการใช้ท่อก๊าซแล้ว ซึ่งการเปิดแข่งขันแบบเสรีคงไม่ใช่เครื่องการันตีว่าจะใช้ก๊าซในราคาที่ถูกที่สุด แต่จะเป็นราคาที่เหมาะสม เนื่องจากผ่านกลไกตลาดที่ผู้ประกอบการต้องแข่งขันกันเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และกำหนดราคาที่เป็นธรรม ไม่ค้ากำไรเกินควร ซึ่งส่งผลดีต่อผู้ที่ใช้ก๊าซ

สำหรับ กฟผ.ก็สามารถเข้ามาแข่งขันในเวทีดังกล่าวได้เช่นกัน ทั้งในฐานะของผู้ซื้อขายก๊าซธรรมชาติ หรือผู้ให้บริการสถานีแปลงสภาพ LNG เนื่องจากในอนาคตเชื่อว่าการแข่งขันในธุรกิจก๊าซจะแข่งขันกันที่ LNG เป็นหลัก ซึ่งจะหาจากแหล่งต่างๆ ได้ทั่วโลก โดยมีปัจจัยที่เกื้อหนุน คือ จะมีกำลังผลิตก๊าซเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต เมื่ออเมริกาเปลี่ยนสถานะจากผู้นำเข้าก๊าซเป็นผู้ส่งออกก๊าซ หลังจากที่มีเทคโนโลยีในการนำก๊าซธรรมชาติที่ผลิตจากชั้นหินดินดาน(Shale Gas) มาใช้ได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ มีการส่ง Shale Gas ไปขายในยุโรปแล้ว จึงเป็นการแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดของรัสเซีย ส่งผลให้รัสเซียเตรียมหาทางออกด้วยการหาตลาดแถบเอเชีย ไทยจึงน่าจะสามารถหาก๊าซ LNG ในราคาที่ต่ำลงได้ในอนาคต

ขณะที่ความต้องการใช้ก๊าซของไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โรงไฟฟ้าทั้งรายใหญ่และรายเล็ก จึงถือเป็นโอกาสของ กฟผ.ที่เพิ่มบทบาทเป็นผู้ซื้อขายก๊าซเอง เพื่อลดต้นทุนด้านเชื้อเพลิง เพิ่มความมั่นคงและความคล่องตัวในการบริหารจัดการด้านเชื้อเพลิง ตลอดจนเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในระดับภูมิภาค


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ