ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค.ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ซึ่งเป็นสัญญาณล่าสุดที่ยืนยันว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มที่จะช่วยหนุนเศรษฐกิจให้ยังคงขยายตัวต่อไปได้ โดยเฉพาะในช่วงที่สหรัฐต้องเผชิญกับมาตรการลดการใช้จ่าย และความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะลดขนาดการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
รายงานของกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า สต็อกของบ้านใหม่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.5% แตะระดับ 161,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปี 2555 เนื่องจากกลุ่มธุรกิจสร้างได้เพิ่มปริมาณการก่อสร้างบ้านเพื่อรองรับความต้องการที่อยู่อาศัยที่สูงขึ้น ส่วนราคากลางของบ้านใหม่ในเดือนพ.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 10.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ความแข็งแกร่งของยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค.มีความสอดคล้องกับรายงานของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ ที่เปิดเผยในวันนี้ว่า ราคาบ้านเดือนเม.ย.ในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินคาดเมื่อเทียบเป็นรายเดือน และหากเทียบเป็นรายปี ราคาบ้านทะยานขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 7 ปี ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐยังคงฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองใหญ่ในเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 1.7% เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาด่ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.2% และหากเทียบเป็นรายปีพบว่า ราคาบ้านใน 20 เมืองใหญ่พุ่งขึ้น 12.1% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้และเป็นการปรับตัวขึ้นที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 7 ปี