(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิด 31.01/05 อ่อนค่าเล็กน้อย ราคาทองร่วงหนุนแรงซื้อดอลล์

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 26, 2013 11:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.01/05 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากเย็นวานนี้ที่ระดับ 30.94/96 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินในภูมิภาค เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา โดยเมื่อเวลา 09.00 น.เงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.05/08 บาท/ดอลลาร์
"เมื่อคืนราคาทองปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก ทำให้เงินบาทปรับตัวอ่อนค่า เพราะมีแรงซื้อดอลลาร์จากผู้ค้าทองเข้ามาเรื่อยๆ...เราปรับตัวไปในทิศทางเดียวกับภูมิภาค แต่สัดส่วนจะแตกต่างกันไป" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้จะอยู่ในกรอบ 31.00-31.10 บาท/ดอลลาร์

"สัปดาห์นี้เงินบาทมีแนวโน้มปรับตัวน้อยกว่าภูมิภาค และไม่น่าจะปรับตัวรวดเร็วเหมือนช่วงก่อนหน้านี้" นักบริหารเงิน กล่าว

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ 31.0800 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ 2.19850%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 97.81 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 97.35/37 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3080 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3117/3120 ดอลลาร์/ยูโร
  • นายวศิน วณิชย์วรนันต์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการไทยที่มีคู่ค้ากับจีนจะต้องมีความระมัดระวังการทำการค้ามากขึ้น เนื่องจากรัฐบาลจีนมีนโยบายที่ต้องการลดความร้อนแรงเศรษฐกิจ เพื่อป้องกันปัญหาฟองสบู่ทางเศรษฐกิจทำให้จีนมีการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศลดลง ขณะที่หนี้เสียในระบบของจีนเริ่มมีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งหากจีนมีปัญหาเศรษฐกิจจะกระทบต่อเศรษฐกิจไทย เพราะไทยส่งออกไปจีนเป็นอันดับ 1 ของการส่งออกทั้งหมด สำหรับลูกค้ารายใหญ่ของธนาคารที่ส่งออกไปจีนมีมูลค่า 45,000 ล้านบาทหรือมีสัดส่วนไม่ถึง 5% ของสินเชื่อรวม
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เร่งรวบรวมผลกระทบเศรษฐกิจจีนชะลอชงเข้าที่ประชุม กนง. วันที่ 10 กรกฎาคมนี้ มั่นใจเงินไหลออกรอบนี้ไม่มีผลต่อเศรษฐกิจไทย ด้านแบงก์พาณิชย์ไทยยอมรับต้องระมัดระวังการลงทุนในจีนเพิ่มขึ้น
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้(25 มิ.ย.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐซึ่งได้มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ทำให้นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจจะตัดสินใจชะลอการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ส.ค.ลดลง 2 ดอลลาร์ หรือ 0.16% ปิดที่ 1,275.1 ดอลลาร์/ออนซ์
  • ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้(25 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาสภาพคล่องตึงตัวของจีน นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ โดยดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.5% ปิดที่ 279.69 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,649.82 จุด เพิ่มขึ้น 54.19 จุด หรือ +1.51%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 7,811.30 จุด พุ่งขึ้น 118.85 จุด หรือ +1.55%, ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,101.91 จุด เพิ่มขึ้น 72.81 จุด หรือ +1.21%
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้(25 มิ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าข้อมูลดังกล่าวทำสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ตัดสินใจลดขนาดการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 97.76 เยน จากระดับของจันทร์ที่ 97.72 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9377 ฟรังค์ จากระดับ 0.9330 ฟรังค์ ขณะที่ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.3090 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3123 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.5425 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5442 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงแตะระดับ 0.9262 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9274 ดอลลาร์สหรัฐ
  • ธนาคารกลางเกาหลีใต้ เผยความเชื่อมั่นของภาคการผลิตเกาหลีใต้ย่ำแย่ลง หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ส่งสัญญาณลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรปลายปีนี้ โดยดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ(BSI) เดือน ก.ค. ซึ่งเป็นมาตรวัดแนวโน้มบรรยากาศทางธุรกิจของของภาคการผลิตในเดือนหน้า ลดลง 4 จุดจากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 78 ขณะที่ดัชนี BSI ที่ปรับทวนจากปัจจัยตามฤดูกาลลดลง 2 จุด สู่ระดับ 76
  • Conference Board เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐในเดือน มิ.ย.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 5 ปี โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มิ.ย.อยู่ที่ 81.4 จาก 74.3 ในเดือน พ.ค.
  • ธนาคารกลางจีน ออกแถลงการณ์มาย้ำว่าไม่ได้ขาดแคลนสภาพคล่อง และภาวะเงินสดที่ตึงตัวในตลาดอินเตอร์แบงก์จะค่อยๆคลี่คลายลง โดยธนาคารกลางจีนได้เพิ่มสภาพคล่องให้กับสถาบันการเงินบางส่วน หลังจากที่อัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงก์ระยะสั้นดีดตัวขึ้นสู่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
  • สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงร่วงลง 118 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 11,870 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือเทียบเท่ากับ 1,284.01 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 12.76 ดอลลาร์สหรัฐ
  • ตลาดหุ้นไทยเปิดทำการเช้าวันนี้พุ่งไปกว่า 16 จุด ทะลุผ่านแนวต้านสำคัญที่ 1,400 จุด เป็นการดีดตัวต่อจากวานนี้ที่ขึ้นมาแรง ซึ่งเป็นไปตามทิศทางตลาดต่างประเทศหลังคลายกังวลปัญหาเศรษฐกิจจีน ขณะที่นักวิเคราะห์ฯ เตือนความผันผวนน่าจะยังมีอยู่ค่อนข้างมาก โดยเมื่อเวลา 09.58 น.ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,400.71 จุด เพิ่มขึ้น 16.08 จุด(+1.16%)
  • นายหลิว ฮงหยู รองผู้อำนวยการสำนักงานทั่วไป สังกัดคณะกรรมาธิการกำกับดูแลด้านการธนาคารจีน(CBRC) เผยภาคธนาคารจีนจะไม่เผชิญภาวะผันผวนสูงด้านหนี้เสียในอนาคต แม้ว่าหนี้เสียของจีนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในปีนี้

-สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) เดือน ส.ค.ปรับตัวลง 50 เซนต์ แตะที่ 94.82 ดอลลาร์/บาร์เรล ในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดเอเชียช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนมองว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐซึ่งการปิโตรเลียมสหรัฐ(API) เปิดเผยเมื่อวานนี้ ยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบกว่า 30 ปี แม้ว่าตัวเลขโดยรวมปรับตัวลดลงก็ตาม

  • ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้น เนื่องจากราคาพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลง โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรหมายเลข 329 ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราดอกเบี้ยระยะยาว ปิดการซื้อขายช่วงเช้าที่ระดับ 0.875% เพิ่มขึ้น 0.010% จากระดับปิดเมื่อวานนี้ ขณะที่ราคาสัญญาพันธบัตรอายุ 10 ปีส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 0.04 จุด แตะระดับ 142.20 ในตลาดหุ้นโตเกียว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ