นายมันเดลล์แสดงความเห็นดังกล่าวเกี่ยวกับเศรษฐกิจมหภาคของจีนดังกล่าวนอกรอบการประชุมที่จัดโดยยูนิเวอร์ซัล เครดิต เรทติ้ง กรุ๊ป (UCRG) ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือรายใหม่ที่หน่วยงานจากจีน รัสเซียและสหรัฐได้ร่วมกันจัดตั้งขึ้น
ทั้งนี้ นักลงทุนมีความวิตกกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับภาวะสภาพคล่องตึงตัว หลังอัตราดอกเบี้ยเงินอินเตอร์แบงก์ระยะสั้นในจีนได้พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นจีนดิ่งลงกว่า 5% เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการร่วงหนักที่สุดในรอบเกือบ 4 ปี
อย่างไรก็ดี นายมันเดลล์เตือนว่า หากภาวะสินเชื่อตึงตัวยังคงดำเนินต่อไปในระยะยาว ก็อาจจะนำไปสู่ภาวะวิกฤตได้
เขาระบุว่า ภาวะสินเชื่อตึงตัวเป็นผลมาจากการปล่อยเงินกู้ที่มากเกินในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันนี้ ภาคธนาคารกำลังควบคุมในเรื่องดังกล่าว
นายมันเดลล์กล่าวต่อไปว่า เขาไม่แน่ใจเกี่ยวกับผลกระทบของภาวะสินเชื่อตึงตัวที่มีต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจของจีนในครึ่งหลังของปีนี้ แต่หากภาวะดังกล่าวยังดำเนินต่อไป ก็จะส่งผลให้อัตราการขยายตัวลดลงอย่างแน่นอน
แต่นายมันเดลล์กล่าวว่า รัฐบาลจีนอาจจะพอใจกับอัตราการขยายตัวที่ลดลงหากสามารถลดยอดหนี้สินลงได้มากพอ พร้อมกับเสริมว่า การชะลอลงของอัตราการขยายตัวไม่ใช่ปัญหาเร่งด่วนสำหรับจีน สำนักข่าวซินหัวรายงาน