โดยปัจจัยที่กดดันราคาทองคำมาจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาดทุกตัว ทั้งยอดขายบ้านใหม่ที่เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 5 ปี ดัชนีราคาบ้าน 20 เมืองใหญ่ที่เพิ่มขึ้น 12% ทะยานขึ้นแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 7 ปี ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของ Conference Board
ทั้งนี้ มุมมองของโบรกเกอร์ที่มีต่อทองคำยังเป็นไปในเชิงลบ ทำให้ยังคงมีแรงเทขายทองคำอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวานนี้(25 มิ.ย.) กองทุน SPDR Gold Trust เทขายทองคำออกมาอีก 16 ตัน ทำให้ปัจจุบันถือครองทองคำเหลือ 989 ตันต่ำสุดในรอบ 4 ปี สัปดาห์นี้โบรกเกอร์หลายแห่งต่างทยอยปรับลดประมาณการราคาทองคำปีนี้และปีหน้าลง ได้แก่ โกลด์แมน ซาคส์, BNP Paibas, Deutsche Bank, HSBC และเครดิต สวิส
และ คืนนี้สหรัฐฯ จะประกาศจีดีพีไตรมาส 1 ซึ่งเป็นประมาณการครั้งสุดท้ายขยายตัว 2.4% เท่ากับประมาณการครั้งที่ 2 ซึ่งถ้าตัวเลขออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดไว้อาจทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงและราคาทองคำฟื้นตัวได้
"แนวโน้มราคาทองคำไม่สดใสและเกิดสัญญาณขายหลังหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,270 ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวลงแรงคาดว่าอาจจะมีการฟื้นตัวทางเทคนิคเนื่องจากภาวะขายมากเกินไป"
สำหรับการเคลื่อนไหวของราคาทองในประเทศวันนี้ ราคาได้มีการปรับตัวขึ้น-ลงรวม 9 ครั้ง โดยราคาได้ปรับลดลง 650 บาท จากราคาในช่วงเช้าที่ทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 18,450.00 ขายบาทละ 18,550.00 ขณะที่ทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 18,176.84 ขายบาทละ 18,950.00
และล่าสุด ราคาทองคำแท่ง รับซื้อบาทละ 18,150.00 ขายบาทละ 18,250.00 ส่วนราคาทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 17,888.80 ขายบาทละ 18,650.00