ขณะเดียวกัน โรงงานจะสนับสนุนทางด้านเทคโนโลยีด้านการเพาะปลูกและการจัดเก็บผลผลิตอ้อยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมปรับปรุงเครื่องจักรให้มีประสิทธิภาพในการหีบอ้อยเพื่อผลิตน้ำตาลทรายได้ดียิ่งขึ้น เพื่อทำให้ชาวไร่อ้อยมีรายได้จากการเพาะปลูกอ้อยเพิ่มขึ้น และสามารถสร้างความแข็งแกร่งให้แก่อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของไทยได้
“ในฤดูการเพาะปลูกอ้อย 56/57 ทางโรงงานน้ำตาลทรายทุกแห่งจะร่วมกันยกระดับคุณภาพผลผลิตอ้อยทั่วประเทศให้มีผลผลิตอ้อยต่อตันและค่าความหวานเพิ่มขึ้น อีกทั้งพัฒนาประสิทธิภาพของเครื่องจักรแต่ละโรงงาน ซึ่งในปีนี้เราต้องเร่งช่วยเหลือชาวไร่อ้อยด้านการเพาะปลูก โดยมีเป้าหมายเพิ่มผลผลิตอ้อยต่อไร่เพิ่มเป็น 12-15 ตัน จากปัจจุบันที่เฉลี่ยอยู่ที่ 10 ตันต่อไร่ และการจัดเก็บผลผลิตที่ต้องการลดปัญหาอ้อยไฟไหม้ด้วยการสนับสนุนรถตัดอ้อยให้แก่ชาวไร่อ้อย เพื่อให้ได้ผลผลิตอ้อยที่มีคุณภาพ มีสิ่งปนเปื้อนลดลง มีค่าความหวานสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้ผลผลิตน้ำตาลทรายต่อตันอ้อยเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านรายได้ให้แก่ชาวไร่อ้อยและความเข้มแข็งให้แก่อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายไทยให้เติบโตได้ยั่งยืน" นายสิริวุทธิ์ กล่าว
ทั้งนี้ ปัญหาที่พบในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายขณะนี้คือเรื่องของคุณภาพอ้อยไม่ดีเท่าที่ควร ดูได้จากค่าเฉลี่ยการผลิตน้ำตาลทรายต่อตันอ้อยหลังปิดหีบฤดูการผลิตปี 55/56 ลดลงเหลือ 100.24 กิโลกรัมต่อตันอ้อย จากฤดูการผลิตปีก่อนที่ 104.63 กิโลกรัมต่อตันอ้อย หรือคิดเป็นปริมาณน้ำตาลทรายที่มีผลผลิตลดลง 4.39 กิโลกรัมต่อตันอ้อย ส่วนค่าเฉลี่ยความหวานลดลงเหลือ 11.64 ซี.ซี.เอส จากปีก่อนอยู่ที่ 12.04 ซี.ซี.เอส.
“เราพอใจที่ผลผลิตอ้อยทะลุ 100 ล้านตัน และผลผลิตน้ำตาลทรายของโรงงานน้ำตาลทรายทั่วประเทศ ประจำฤดูการผลิตปี 55/56 ก็ทะลุ 100 ล้านกระสอบ แต่ในเชิงคุณภาพเรายังไม่พอใจ เพราะอ้อยปริมาณ 100 ล้านตันปีนี้ ผลิตน้ำตาลทรายได้ 100.24 ล้านกระสอบ ในขณะที่ปีก่อนหีบอ้อยไม่ถึง 100 ล้านตัน คือมีเพียง 97.98 ล้านตัน แต่ได้น้ำตาลทราย 102.5 ล้านกระสอบ แสดงให้เห็นว่าในเชิงคุณภาพผลผลิตอ้อยยังน่าเป็นห่วง มีสาเหตุมาจากหลายปัจจัยทั้งด้านสภาพอากาศที่แปรปรวน และการจัดเก็บผลผลิตที่มีสิ่งปนเปื้อนและอ้อยไฟไหม้"นายสิริวุทธิ์ กล่าว