ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบปริมาณข้าวสารในคลังที่ 6 พบว่ามีข้าวสารอยู่ 119,172 กระสอบ และได้ส่งมอบข้าวให้เอกชนแล้ว 20,000 กระสอบ ส่วนคลังที่ 5 มีจำนวนข้าวสาร 162,000 กระสอบครบถ้วนตามที่ลงบัญชีไว้ และยังไม่มีการส่งมอบหรือเคลื่อนย้ายใดๆ ซึ่งไม่พบสิ่งผิดปกติ เพราะพาณิชย์จังหวัดได้มีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากการตรวจสอบโกดังกลางแต่ละแห่งเสร็จสิ้นแล้ว ชุดปฏิบัติการตรวจสอบฯ จะรายงานตรงเข้าส่วนกลางทันที นอกจากนี้ ยังได้เก็บตัวอย่างข้าวเข้าไปตรวจสอบในห้องปฏิบัติการ (ห้องแล็ป) เพื่อตรวจสอบคุณภาพการจัดเก็บข้าวอย่างละเอียดด้วย
ด้านนายวุฒิชัย ดวงรัตน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งรวมในชุดปฏิบัติการตรวจสอบฯ กล่าวว่า จากการนำคณะมาตรวจสอบและรับฟังข้อมูลจากพาณิชย์จังหวัดใน 3 จังหวัด ได้แก่ พื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี และชัยนาท รวม 20 โกดัง 19 โรงสี พบว่าข้าวของรัฐบาลที่เก็บไว้ในโกดังและโรงสีทั้ง 3 จังหวัดมีปริมาณครบถ้วน โดยมีปริมาณข้าวสารรวมราว 200,000 ตัน หรือประมาณ 2 ล้านกระสอบ (กระสอบละ 100 กิโลกรัม)
เมื่อตรวจสอบปริมาณข้าวแล้วเสร็จในแต่ละจุด จะรายงานผลการตรวจสอบไปยังศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) เพื่อประมวลผล และจากการรายงานรวมทั้งการลงพื้นที่ด้วยตนเองทั้ง 3 จังหวัดยังไม่พบสิ่งผิดปกติ ทั้งข้าวหาย หรือกระทำการทุจริตใดๆ
"ชุดปฏิบัติการฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบปริมาณข้าวคงเหลือ หรือสต็อกข้าวของรัฐบาลในครั้งนี้ ได้ตรวจสอบโกดังกลางของเอกชนที่รัฐบาลเช่าเพื่อฝากเก็บข้าวพร้อมกันทั่วประเทศ 2,506 จุดทั่วประเทศ และตรวจสอบข้าวในสต๊อกของโรงสีเอกชนที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวอีก 680 แห่ง ซึ่งหากพบปริมาณข้าวหายไปเกินมาตรฐานที่กำหนด นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ หรือนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ หรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่ติดตามสถานการณ์อยู่ที่ ศปก.ตร.จะขึ้นเฮลิคอปเตอร์มายังจุดที่ตรวจพบข้าวหายจากสต๊อกทันที"นายวุฒิชัย กล่าว