กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ค. เพราะได้ปัจจัยหนุนจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น นับเป็นการส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาสนี้จะขยายตัวขึ้น เพราะการใช้จ่ายผู้บริโภคคิดเป็นสัดส่วนถึง 70% หรือสองในสามของระบบเศรษฐกิจสหรัฐ
การใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 0.3% หลังจากที่ร่วงลง 0.3% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2552 หรือในรอบกว่า 3 ปี
ขณะเดียวกัน รายงานระบุว่า รายได้ส่วนบุคคลปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ค. หลังจากที่ขยับขึ้น 0.1% ในเดือนเม.ย.
สำหรับอัตราการออมเงินส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นแตะ 3.2% ในเดือนพ.ค. จากระดับ 3% ในเดือนเม.ย.
รายงานที่ได้รับการเปิดเผยล่าสุดนี้อาจช่วยคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยวานนี้ว่า จีดีพีไตรมาส 1/2556 ขั้นสุดท้าย ขยายตัวในอัตรา 1.8% ต่อปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัวขึ้น 2.4% ต่อปี โดยสาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้จีดีพีขยายตัวได้ต่ำกว่าคาดการณ์นั้นเป็นเพราะมีการปรับทบทวนอัตราการใช้จ่ายผู้บริโภคลงมาอยู่ที่ระดับ 2.6% จากระดับ 3.4%