ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 98.39 เยน จากระดับของวันพุธที่ 97.87 เยน ขณะเดียวกันดอลลาร์สหรัฐขยับขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9447 ฟรังค์ จากระดับ 0.9435 ฟรังค์
ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นแตะดับ 1.3048 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.3004 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์อ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 1.5261 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5312 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นแตะระดับ 0.9278 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9263 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นหลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 22 มิ.ย. ลดลง 9,000 ราย มาอยู่ที่ 346,000 ราย หลังจากที่เพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อนหน้า
นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ที่แล้วจะอยู่ที่ 345,000 ราย ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 มิ.ย. ถูกปรับทบทวนขึ้นเป็น 355,000 ราย เพิ่มขึ้น 19,000 จากรายงานก่อนหน้านี้
ขณะเดียวกันกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ค. เพราะได้ปัจจัยหนุนจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น นับเป็นการส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาสนี้จะขยายตัวขึ้น เพราะการใช้จ่ายผู้บริโภคคิดเป็นสัดส่วนถึง 70% หรือสองในสามของระบบเศรษฐกิจสหรัฐ
ทั้งนี้ ตัวเลขการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนพ.ค.ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.3% หลังจากที่ร่วงลง 0.3% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2552 หรือในรอบกว่า 3 ปี ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ค. หลังจากที่ขยับขึ้น 0.1% ในเดือนเม.ย.
นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ หลังจากนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก กล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอาจจะต้องใช้เวลาอีกนาน และเฟดสามารถรอคอยเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้แม้ว่าอัตราว่างงานลดลงมาอยู่ที่ระดับ 6.5% ก็ตาม นักลงทุนจับตาดูสถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) ของสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนมิ.ย.ในวันนี้เวลา 20.45 น.ตามเวลาไทย ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าดัชนี PMI จะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 56.0 ในเดือนมิ.ย. จากเดือนพ.ค.ที่ระดับ 58.7