(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิด 30.94/96 มองแนวโน้มทรงตัว ขาดปัจจัยใหม่หนุน

"ทรงๆ ตัวรอปัจจัยใหม่ วันนี้น่าจะขยับไปตามภูมิภาค" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินเงินบาทจะแกว่งตัวในกรอบระหว่าง 30.90-31.10 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ 30.9100 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ 2.19624%

• ปัจจัยสำคัญ

• เงินเยนอยู่ที่ระดับ 99.55 เยน/ดอลลาร์
• เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3051 ดอลลาร์/ยูโร
• อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.วันนี้อยู่ที่ 31.1370 บาท/ดอลลาร์
• ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินสินเชื่อแบงก์ครึ่งปีหลังชะลอตามภาวะเศรษฐกิจไทยพร้อมจับตากรณี QE สหรัฐฯ ห่วงดูดกระแสเงินไหลออก กระทบสภาพคล่อง
• เอกชนหั่นเป้าส่งออกปีนี้ คาดว่าขยายตัวไม่เกิน 3% ชี้ปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจคู่ค้าไม่ฟื้นตัว การส่งออกสินค้าเกษตรมีปัญหา เตรียมนัด "นิวัฒน์ธำรง" หารือแนวทางกระตุ้นส่งออก ด้านปลัดพาณิชย์ เผยเงินเฟ้อเดือน มิ.ย.เพิ่มขึ้น 2.25% ต่ำสุดในรอบ 43 เดือน
• โกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับลดเป้าหมายช่วง 12 เดือนของดัชนี MSCI สำหรับภูมิภาคเอเชียที่ไม่รวมญี่ปุ่นลงสู่ระดับ 480 จากเดิมที่ 550 โดยระบุว่าภูมิภาคเอเชียจะมีการปรับตัวย่ำแย่ในช่วงหลายเดือนข้างหน้า เมื่อพิจารณาถึงภาวะสภาพคล่องที่ตึงตัวขึ้นและการขยายตัวที่อ่อนแรงลง โดยบรรยากาศด้านเศรษฐกิจมหภาคได้เอื้อประโยชน์น้อยลงต่อหุ้นของภูมิภาค ขณะที่มีกระแสการชะลอมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน ซึ่งจะส่งผลให้ภาวะทางการเงินตึงตัวมากขึ้น และแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจก็ลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจีน นอกจากนี้โกลด์แมนฯ ยังได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) ในภูมิภาคลงสู่ระดับ 6.1% จาก 6.9% ที่ประเมินไว้เมื่อต้นปี ทั้งนี้โกลด์แมนฯ มองว่าดัชนีหุ้นของไทยมีความน่าดึงดูดใจ จากการขยายตัวที่สดใสของประเทศ โดยคาดว่าดัชนีหุ้นไทยมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น 17% ภายในไตรมาสแรกของปีหน้า
• สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงพุ่งขึ้น 490 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 11,750 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือเทียบเท่ากับ 1,271.03 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 53.01 ดอลลาร์สหรัฐ
• China Foreign Exchange Trading System(CFETS) รายงานว่า เงินหยวนแข็งค่าขึ้น 0.32% แตะที่ 6.1773 หยวนต่อดอลลาร์
• สกุลเงินดอลลาร์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 สัปดาห์เมื่อเทียบกับเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้(1 ก.ค.) เนื่องจากข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของญี่ปุ่นได้กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายสกุลเงินเยนซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 99.72 เยน จากระดับของวันศุกร์ที่ 99.18 เยน และดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9456 ฟรังค์ จากระดับ 0.9438 ฟรังค์ ขณะที่ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.3059 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3018 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.5208 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5212 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นแตะระดับ 0.9231 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9157 ดอลลาร์สหรัฐ
• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) เดือน ส.ค.ปรับตัวลง 10 เซนต์ แตะที่ 97.89 ดอลลาร์/บาร์เรล ในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดเอเชียช่วงเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตามสัญญาน้ำมันดิบยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 1 เดือน ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการน้ำมันในสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ(EIA) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 28 มิ.ย.ในวันพุธนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะร่วงลง 2.7 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 0.2%