นายนิวัฒน์ กาญจนภูมินทร์ กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย เปิดเผยว่า ในช่วงระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติมีการขายสุทธิในตลาดตราสารหนี้ออกมาอย่างต่อเนื่องประมาณ 9 หมื่นล้านบาท หลังจากที่มีการออกมาเปิดเผยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าจะมีการชะลอหรือหยุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE) ในเดือนกันยายนนี้ ทำให้ขณะนี้คงเหลือการถือครองสุทธิของต่างชาติประมาณ 7.7 แสนล้านบาท จากที่ก่อนหน้านี้ถือครองอยู่ประมาณ 8.6 แสนล้านบาท
แต่อย่างไรก็ตาม มองว่าหลังจากนี้การไหลออกของเงินทุนต่างประเทศจะไม่รุนแรงเหมือนช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งระยะเวลาหลังจากนี้ต้องติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่นและสหภาพยุโรปว่าจะยังคงมีการอัดฉีดสภาพคล่องออกมาอย่างต่อเนื่องหรือไม่ หลังจากเริ่มเห็นสัญญาณการชะลอตัวของการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบของหลายประเทศ
สำหรับกรณีที่ภาครัฐจะมีการกู้ยืมเงินเพื่อใช้จ่ายในโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท และโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทนั้น เงินในการลงทุนจะมาจาก 2 วิธี คือการกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์ และการออกพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งการลงทุนในครั้งนี้ ส่งผลให้ดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาปรับตัวสูงขึ้น 0.30-0.40%