สำหรับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวของคณะกรรมาธิการฯ มีความคืบหน้าไปมากแล้ว โดยงบประมาณที่ถูกปรับลดลงจะนำไปใช้ในภารกิจที่เกี่ยวกับการส่งเสริมและพัฒนา ซึ่งจะกันสำรองงบประมาณไว้ 1% ของมูลค่าโครงการ หรือราว 2 หมื่นล้านบาท
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับเรื่องความโปร่งใสในการดำเนินโครงการดังกล่าว ซึ่งในส่วนของกระทรวงคมนาคมจะเชิญภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้ามาเป็นผู้สังเกตุการณ์
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังเสนอแนะให้สร้างมูลค่าเพิ่มแก่โครงการลงทุนดังกล่าว เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงก็ควรส่งเสริมให้มีการสร้างเมืองใหม่ หรือสร้างระบบเศรษฐกิจตามแนวเส้นทาง
ส่วนการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) และรายงานผลกระทบด้านสุขภาพ(HIA) ขอให้ดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ และมีการจัดทำตารางเวลาทำงานที่ชัดเจน ซึ่งหากเกิดปัญหาหรืออุปสรรคก็ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบนำกลับมาเสนอที่ประชุมฯ หรือรายงานต่อรัฐมนตรีต้นสังกัดโดยตรง เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาได้โดยรวดเร็ว
"ไม่มีความกังวลใจว่าจะถูกร้องศาลปกครองเหมือนกรณีโครงการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ 3.5 แสนล้านบาท เพราะทุกโครงการดำเนินไปตามหลักเกณฑ์และมีการตรวจสอบอย่างรอบคอบ" นายชัชชาติ กล่าว