นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 31.09/11 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 30.99/31.01 บาท/ดอลลาร์ หลังจากนั้นก็อ่อนค่ามาอยู่แถวๆ 31.05/07 บาท/ดอลลาร์ หลักๆ เงินบาทยังเคลื่อนไหวตามค่าเงินสกุลหลักในภูมิภาค
"วันนี้ยังมี Flow จากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติเข้ามาเรื่อยๆ ทั้งนักลงทุนต่างชาติในบ้านเราและฝั่ง Off Shore"นักบริหารเงิน กล่าว
สำหรับค่าเงินบาทในวันพรุ่งนี้ ยังต้องลุ้นราคาทองคำว่าจะคืนนี้จะขึ้นทะลุ 1,250 ดอลลาร์/ออนซ์ได้หรือไม่ ถ้าทะลุได้เงินบาทอาจจะแข็งค่าเล็กน้อย แต่คาดว่าเงินบาทไม่น่าจะหลุดระดับ 31.00 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งมองส่วนแนวต้านแรกยังมองที่ระดับ 31.11 บาท/ดอลลาร์ แนวต้านถัดไป 31.18 และ 31.20 บาท/ดอลลาร์ตามลำดับ
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 99.80 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่อยู่ที่ระดับ 100.50 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2960 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.2975 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,443.57 จุด ลดลง 20.41 จุด, -1.39% มูลค่าการซื้อขาย 50,999.68 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 3,385.50 ลบ.(SET+MAI)
- ผลการสำรวจทางเศรษฐกิจรายไตรมาสของหอการค้าอังกฤษ (BCC) ระบุว่าเศรษฐกิจของอังกฤษกำลังก้าวหน้า แต่ยังคงมีความเสี่ยงจากภายในและภายนอกประเทศที่อาจทำให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหยุดชะงัก
- เงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในวันนี้ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลโปรตุเกสปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่รัฐมนตรี 2 คนได้ลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งเป็นการจุดชนวนให้เกิดกระแสวิตกกังวลว่าวิกฤตหนี้ยุโรปอาจกำลังย่ำแย่ลง
เงินยูโรอ่อนค่าลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 และร่วงลงมากที่สุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ขณะที่ต้นทุนการกู้ยืมในสเปนและอิตาลีปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน
เงินยูโรร่วงลง 0.4% แตะ 1.2931 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 9.20 น.ตามเวลาลอนดอน หลังจากที่ตกลง 0.7% เมื่อวานนี้
ด้านเงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักทั้ง 16 สกุล เนื่องจากตลาดหุ้นที่ปรับตัวลงทำให้นักลงทุนแห่ถือครองเงินเยนซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยกันมากขึ้น