รายงานระบุว่า บัญชีเดินสะพัด ซึ่งเป็นมาตรวัดทางการค้าระหว่างประเทศที่กว้างที่สุดตัวหนึ่ง มียอดเกินดุลที่ 5.407 แสนล้านเยนในเดือนพ.ค.
ญี่ปุ่นยังคงเกินดุลบัญชีเดินสะพัดต่อเนื่องในเดือนพ.ค. แม้ว่าการขยายตัวด้านการลงทุนโดยตรงได้เผชิญกับยอดขาดดุลการค้าในเดือนดังกล่าว
การซื้อขายสินค้าขาดดุล 9.067 แสนล้านเยน เนื่องจากมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น 9.1% สู่ระดับ 5.5269 ล้านล้านเยนจากการอ่อนค่าลงของเงินเยน ขณะมูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้น 9.6% สู่ระดับ 6.4336 ล้านล้านเยน
โดยทั่วไปการอ่อนค่าของเงินเยนปัจจัยส่งเสริมให้สินค้าของผู้ประกอบการญี่ปุ่นมีราคาถูกลงในต่างประเทศ และเพิ่มรายได้ในต่างประเทศในรูปสกุลเงินเยน แต่ก็ทำให้ต้นทุนการนำเข้าเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ต้นทุนนำเข้ายังเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทผลิตพลังงานมีความต้องการก๊าซธรรมชาติและน้ำมันเพิ่มขึ้นเพื่อใช้ในการผลิตพลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล เพื่อเป็นทางเลือกที่นอกเหนือจากพลังงานนิวเคลียร์ ภายหลังการเกิดอุบัติเหตุที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ ไดอิจิ อันเนื่องมาจากเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิเมื่อเดือนมี.ค. 2554
เงินเยนอ่อนค่าลงเฉลี่ย 26.8% เทียบดอลลาร์สหรัฐ จากเมื่อหนึ่งปีก่อน ขณะที่ปรับตัวลง 28.5% เมื่อเทียบยูโร สำนักข่าวเกียวโดรายงาน