"Major Currency ในภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นยูโร ปอนด์ หรือ Regional พากันตอบรับข่าวนี้ ประกอบกับทองคำลงมา Test แถวๆ ระดับ 1,200 ดอลาร์/ออนซ์ โดยเมื่อวันศุกร์อยู่ที่ระดับ 1,211 ดอลลาร์/ออนซ์" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงินประเมินทิศทางเงินบาทน่าจะมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อไป และอาจจะต้องจับตาราคาทองคำว่าวันนี้จะหลุดระดับ 1,200 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือไม่ ถ้าหลุดเงินบาทมีโอกาสไปทดสอบแนวต้านที่ระดับ 31.40 และ 31.50 บาท/ดอลลาร์ตามลำดับ ส่วนแนวรับมองไว้ที่ระดับ 31.30 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.15 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 99.98/99 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2824 ดอลลาร์/ยูโร จากเนย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 1.2870/2871 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.วันนี้อยู่ที่ 31.1420 บาท/ดอลลาร์
- นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงแนวโน้มการแข่งขันด้านการส่งออก ปีนี้ว่า ต้องการให้ผู้ส่งออกไทยเตรียมรับมือกับผู้ส่งออกจากประเทศจีนที่มีแนวโน้มที่จะลดราคาสินค้าส่งออกในตลาดต่างๆ โดยเฉพาะในตลาดเอเซียนเพื่อระบายสินค้าที่เหลืออีกจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ หลังจากในช่วงครึ่งแรกของปี 2556 การส่งออกในภาพรวมของจีนมีอัตราการขยายตัวในระดับที่ต่ำกว่าเป้าหมาย ประกอบกับการบริโภคในจีนก็เริ่มซบเซาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
- MTS คาดราคาทองไตรมาส 3 ปีนี้ยังเป็นขาลง หลังตลาดกังวลเฟดเลิก QE เผยในช่วงเดือน ส.ค. แนะนักลงทุนจับตาความต้องการทองคำของประเทศอินเดียในเทศกาลแต่งงาน
- นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน กล่าวว่า แนวโน้มราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศสัปดาห์นี้ มีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่จะไม่สูงเกินกว่าราคาปัจจุบันมากนัก ซึ่งขึ้นอยู่กับราคาน้ำมันตลาดสิงคโปร์ ในต้นสัปดาห์นี้ว่า จะมีการตอบสนองต่อราคาน้ำมันในตลาดโลก มากน้อยเพียงใด ถึงแม้ว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมา จะมีการปรับราคาเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่สนองต่อราคาน้ำมันตลาดโลกเท่าที่ควร
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (5 ก.ค.) หลังสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนมิ.ย.สูงเกินคาด
เงินดอลลาร์แข็งค่า 1.09% เทียบเงินเยน ที่ 101.12 เยน จากระดับเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 100.03 เยน ขณะเดียวกันเงินดอลลาร์ก็แข็งค่า 0.74% เทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9633 ฟรังก์ จาก 0.9562 ฟรังก์
เงินยูโรอ่อนลง 0.64% เทียบดอลลาร์ แตะ 1.2830 ดอลลาร์ จาก 1.2913 ดอลลาร์ ด้านเงินปอนด์ก็ลดลง 1.14% เทียบดอลลาร์ ที่ 1.4898 ดอลลาร์ จาก 1.5070 ดอลลาร์
เงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง 0.96% เทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 0.9054 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 0.9142 ดอลลาร์สหรัฐ และเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 1.56% เทียบดอลลาร์สหรัฐ แตะที่ 0.7709 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7831 ดอลลาร์สหรัฐ
- ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (5 ก.ค.) เนื่องจากการปรับตัวขึ้นของตัวเลขจ้างงานสหรัฐ ทำให้นักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้เป็นเหตุผลในการชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
- ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในเอเชียปรับตัวลดลงเช้านี้ หลังสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนมิ.ย.สูงเกินคาด ส่งผลให้นักลงทุนเริ่มกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจชะลอโครงการซื้อพันธบัตรเร็วกว่าที่คาดการณ์
ด้านตลาดหุ้นไทย นักวิเคราะห์ฯ ประเมินวันนี้แนวโน้มดัชนีแกว่งตัวขึ้นในกรอบจำกัด ตามตลาดหุ้นเอเชียในช่วงเช้าที่ส่วนใหญ่ดัชนีเป็นบวก ขานรับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราว่างงานยังทรงตัว ประกอบกับราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้อาจจะมีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มนี้เข้ามาหนุนดัชนีตลาดหุ้นไทย แต่กำลังซื้อทั้งนักลงทุนในประเทศและต่างประเทศยังคงเบาบาง พร้อมให้แนวต้าน 1,450-1,460 จุด แนวรับ 1,430 จุด