นักบริหารเงินจากธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.22/24 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.29/30 บาท/ดอลลาร์
วันนี้คาดว่าเงินบาทคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ แต่มีโอกาสที่จะไปในทิศทางแข็งค่าได้มากกว่าอ่อนค่า โดยวันนี้ต้องจับตาดูการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) รวมทั้งรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด(FOMC)
"ตลาดคาดว่ารอบนี้ กนง.น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 2.50% แต่ที่สำคัญคือต้องดูว่าจะมีถ้อยแถลงต่อมุมมองเศรษฐกิจอย่างไร ซึ่งจุดนี้น่าจะมีผลในการ drive ในประเทศได้" นักบริหารเงินระบุ
นักบริหารเงินคาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.20-31.30 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.13 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อวานนี้ที่ระดับ 101.25 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2777 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อวานนี้ที่ระดับ 1.2862 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.วันนี้อยู่ที่ 31.3550 บาท/ดอลลาร์
- จับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)วันนี้ ซึ่งตลาดคาดว่าที่ประชุมกนง.รอบนี้จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 2.50% เนื่องจากไม่มีแรงกดดันจากทั้งเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราเงินเฟ้อ
- นายบัณฑิต นิจถาวร ประธานกรรมการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย เปิดเผยว่า การประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 10 ก.ค.นี้ คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยเชิงนโยบายไว้ที่เดิม เนื่องจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยนั้น เป็นเพียงการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น ถึงแม้ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจในขณะนี้จะยังคงชะลอตัว และกลไกของการใช้จ่ายมีทิศทางไม่คล่องตัว
- "สมาคมตลาดตราสารหนี้"ชี้ตลาดแรกยอดตราสารหนี้คงค้างเพิ่ม 3.4% แตะ 8.88 ล้านล้านบาท ขณะที่มูลค่าซื้อขายเฉลี่ย ต่อวันในตลาดรองเพิ่มขึ้น 20% ประเมินครึ่งปีหลัง เอกชนออกหุ้นกู้ต่อเนื่อง ประมาณ 2 แสนล้าน หวังล็อกต้นทุนการเงิน รับดอกเบี้ยขาขึ้น เชื่อตลาดตราสาร หนี้ไทยยังน่าลงทุน คาดครึ่งหลังเงินไหล ออกต่างชาติมีแนวโน้มชะลอตัว มั่นใจทั้งปีเงินต่างชาติยังไหลเข้าสุทธิ
- สกุลเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้(9 ก.ค.) หลังจากประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ส่งสัญญาณว่าอีซีบีอาจจะคงนโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไปอีกกว่า 1 ปี
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ เพราะได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นเกินคาดของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 11 ดอลลาร์ หรือ 0.89% ปิดที่ 1,245.9 ดอลลาร์/ออนซ์
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จากมาร์เก็ตวอชคาดว่า นักลงทุนจะเทขายสัญญาทองคำในวันพุธ เมื่อธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด(FOMC) ประจำวันที่ 18-19 มิ.ย.
- สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์(เอสแอนด์พี) สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีลง 1 ขั้น สู่ระดับ BBB จากระดับ BBB+ พร้อมกับให้แนวโน้มเชิงลบ โดยระบุในแถลงการณ์ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจของอิตาลีอ่อนแอลง และเอสแอนด์พีอาจจะลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีลงอีกในปีนี้หรือปีหน้า
- สำนักงานศุลกากรจีนเปิดเผยมูลค่าการส่งออกในเดือนมิ.ย.หดตัวลง 3.1% จากปีก่อน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 1% ในเดือนพ.ค. ขณะที่การนำเข้าเดือนมิ.ย.ลดลง 0.7% เทียบรายปี เมื่อเทียบกับที่ขยับลง 0.3% ในเดือนพ.ค. ส่งผลให้ยอดเกินดุลการค้าในเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นแตะ 2.71 หมื่นล้านดอลลาร์จาก 2.04 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค.
- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นเช้านี้ โดยการนำของหุ้นกลุ่มบริษัทวัตถุดิบ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ประชุมนโยบายการเงินเดือนก.ค.ในวันนี้ รวมถึงข้อมูลการค้าเดือนมิ.ย.ของจีน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ หลังจากบริษัทอัลโค อิงค์ เปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐจะปรับตัวลดลง โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 39 เซนต์ ปิดที่ 103.53 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์(BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 38 เซนต์ ปิดที่ 107.81 ดอลลาร์/ออนซ์