นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเปิดการประชุมพร้อมมอบนโยบายว่า การลงพื้นที่เพื่อมาร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัด และการจัดทำตัวชี้วัดการพัฒนาจังหวัดมหาสารคามและจังหวัดบุรีรัมย์ในครั้งนี้ เพื่อทบทวนแผนพัฒนาจังหวัดและปรับแผนให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ประเทศ ให้เกิดการเชื่อมโยงอย่างสมบูรณ์ทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ 1. การสร้างรายได้ที่ยั่งยืน 2. ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม 3. การรองรับการเติบโตของชุมชนใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 4. การเตรียมพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการคมนาคมขนส่งและการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งรัฐบาลต้องการบูรณาการการทำงานในแต่ละกระทรวงให้มีการปฏิบัติงานโดยยึดเอาจังหวัดเป็นศูนย์กลางให้เกิดการบูรณาการอย่างสมบูรณ์
สำหรับการประชุมแผนยุทธศาสตร์จังหวัดจะนำตัวเลขทางสถิติของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นตัวกำหนด เป็นตัวชี้วัด เพื่อแสดงให้เห็นตัวเลขในแต่ละจุดของแต่ละจังหวัดว่ามีจุดเด่นและจุดด้อยอย่างไร และจะมอบหมายให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องลงไปทำงานในจังหวัด เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าในการใช้งบประมาณอย่างเต็มที่ รวมทั้งเพื่อหาจุดมุ่งหมายเดียวกันที่เมื่อรับทราบปัญหาแล้วจะได้นำไปวิเคราะห์หาจุดอ่อนจุดแข็ง เพื่อตอบโจทย์รัฐบาลที่ต้องการสร้างรายได้ให้ประชาชนอย่างยั่งยืน
นอกจากนั้น เพื่อเป็นการบูรณาการการทำงานในพื้นที่ รับฟังปัญหาในพื้นที่ และจะใช้งบประมาณบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทมาแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด ขณะที่งบ 2 ล้านล้านบาทด้านโครงสร้างพื้นฐานจะมีการสร้างรถไฟรางคู่และถนน เพื่อเชื่อมต่อเส้นทางคมนาคม ทั้งนี้ เมื่อเกิดการลงทุนโครงการดังกล่าวของรัฐบาลก็จะทำให้เกิดการจ้างงาน จ้างคน ในพื้นที่ชุมชน นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีระบุว่าเศรษฐกิจของจังหวัดมีความสำคัญ โดยการสร้างเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตนั้น เศรษฐกิจของจังหวัดก็จะต้องเติบโตควบคู่กันไปด้วย
จากนั้น นายกรัฐมนตรีรับฟังผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 2 จังหวัด และภาคเอกชนในพื้นที่นำเสนอยุทธศาสตร์ต่อที่ประชุม