เงินบาทเปิด 31.04/06 เคลื่อนไหวตามภูมิภาค รอความชัดเจนถ้อยแถลงเฟด

"เงินบาทยังเคลื่อนไหวตามภูมิภาค นักลงทุนรอดูผลประชุมเฟด" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 31.00-31.20 บาท/ดอลลาร์

• ปัจจัยสำคัญ

• เงินเยนอยู่ที่ระดับ 99.51/53 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 99.67 เยน/ดอลลาร์
• เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3136/3138 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3080 ดอลลาร์/ยูโร
• อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.วันนี้อยู่ที่ 31.0760 บาท/ดอลลาร์
• ตลาดหลักทรัพย์เผยมีแผนดึงนักลงทุนต่างชาติ 4 กลุ่ม จีน ญี่ปุ่น ตะวันออกกลาง และสแกนดิเนเวีย เข้าตลาดหุ้นไทยมากขึ้น หวังเพิ่มความหลากหลาย ลดความผันผวนจากเงินไหลเข้าออก เตรียมจัดงานไทยแลนด์โฟกัสเดือน ส.ค.นี้ ชูจุดเด่น ดึงกลุ่ม "ซีแอลเอ็มวี" ทั้งลาว พม่า กัมพูชา เวียดนามร่วมงาน
• บิ๊กออมสินยอมรับยอดปฏิเสธสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นหลังแนวโน้มหนี้สินภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้น ยันไม่ได้เข้มงวดการปล่อยกู้แต่ปล่อยตามเกณฑ์เดิมไม่เกิน90% ของราคาขาย มั่นใจยังไม่เกิดภาวะฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์แต่ยอดขายอาจแผ่วลงบ้าง
• นักวิชาการธรรมศาสตร์มองเศรษบกิจไทยครึ่งปีหลังเต็มที่โตไม่เกิน 4% เครื่องยนต์หลักทั้งบริโภค ลงทุน และส่งออกเดี้ยง รัฐต้องอัดงบหนักกระตุ้นให้โตตามเป้า ด้านเอดีบีหั่นเป้าจีดีพีประเทศกำลังพัฒนาในเอเชีย ผลกระทบจากจีน
• นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ จะแถลงนโยบายการเงิน และมุมมองทางเศรษฐกิจ ในวันที่ 17 -18 ก.ค.นี้
• สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำ และเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงเพิ่มขึ้น 90 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 12,050 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือเทียบเท่ากับ 1,303.48 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 9.7 ดอลลาร์สหรัฐ
• สำนักงานกำกับดูแลการเงินของเกาหลีใต้(FSS) เผยธนาคารพาณิชย์ของเกาหลีใต้สามารถกู้ยืมเงินจากต่างประเทศได้มากขึ้นในเดือน ก.ค.แม้มีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นในต่างประเทศก็ตาม รวมถึงความเป็นไปได้ที่สหรัฐจะถอนมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) ก่อนกำหนด โดยอัตราการต่ออายุเงินกู้ยืมระยะยาวเมื่อครบกำหนด(rollover rate) สำหรับเงินกู้ต่างประเทศที่มีอายุไถ่ถอนไม่เกิน 1 ปีของธนาคารพาณิชย์ภายในประเทศ 16 แห่ง อยู่ที่ 110.5% ในเดือน ก.ค ซึ่งตัวเลขดังกล่าวยังคงเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับเฉลี่ยรายเดือนที่ 113.1% ในปี 2556
• สำนักงานส่งเสริมการค้าของสิงคโปร์ รายงานยอดส่งออกสินค้าที่ไม่นับรวมน้ำมันปรับตัวลดลง 8.8% ในเดือน มิ.ย.เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 และเป็นสถิติที่ลดลงยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินโลก โดยสะท้อนให้เห็นว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจในสิงคโปร์ในไตรมาสที่ผ่านมานั้น อาจชะลอตัวลงมากกว่าที่รัฐบาลประเมินไว้ในเบื้องต้น ขณะที่กระทรวงการค้าของสิงคโปร์ระบุผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ไตรมาส 2 ซึ่งสิ้นสุดเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ขยายตัว 15.2% จากไตรมาสแรกที่ขยายตัว 1.8%
• ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงเช้านี้หลังสกุลเงินเยนแข็งค่าขึ้น โดยดัชนี MSCI Asia Pacific ขยับลง 0.1% แตะ 135.81 จุด เมื่อเวลา 9.25 น.ตามเวลาโตเกียว โดยมีสัดส่วนหุ้นลบต่อหุ้นบวก 2 ต่อ 1 หุ้น, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 14,491.80 จุด ลดลง 107.32 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,061.19 จุด ลดลง 4.53 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 21,368.77 จุด เพิ่มขึ้น 56.39 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,239.10 จุด ลดลง 21.01 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,871.29 จุด เพิ่มขึ้น 4.93 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,221.12 จุด ลดลง 3.84 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 6,583.72 จุด เพิ่มขึ้น 0.17 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,786.11 จุด ลดลง 0.28 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 4,996.10 จุด เพิ่มขึ้น 10.10 จุด
• China Foreign Exchange Trading System(CFETS) รายงานเงินหยวนปรับตัวขึ้น 0.40% แตะที่ 6.1652 หยวนต่อดอลลาร์
• ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดวันนี้ที่ 14,491.80 จุด ลดลง 107.32 จุด หรือ -0.74% เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินเยน นอกจากนี้นักลงทุนยังมีท่าทีระมัดระวังก่อนที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะแถลงมุมมองเศรษฐกิจต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้
• ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้(16 ก.ค.) หลังมีรายงานดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนในเยอรมนีร่วงลงอย่างผิดคาดในเดือน ก.ค.ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเยอรมนี โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดลบ 0.7% แตะที่ 295.31 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,851.03 จุด ลดลง 27.55 จุด หรือ -0.71%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,201.05 จุด ลดลง 33.76 จุด หรือ -0.41%, ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,556.35 จุด ลดลง 29.76 จุด หรือ -0.45%
• ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้(16 ก.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทหลายแห่งในสหรัฐ รวมถึงโคคา-โคลา โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,451.85 จุด ลดลง 32.41 จุด หรือ -0.21%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 3,598.50 จุด ลดลง 8.99 จุด หรือ -0.25%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,676.26 จุด ลดลง 6.24 จุด หรือ -0.37%
• สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้(16 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเมื่อวันก่อน นอกจากนี้การร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กซบเซาลงด้วย ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ลดลง 32 เซนต์ ปิดที่ 106 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์(BRENT) ส่งมอบเดือน ส.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 31 เซนต์ ปิดที่ 109.40 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย.ปีนี้
• สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้(16 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำก่อนที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะแถลงมุมมองเศรษฐกิจต่อสภาคองเกรสสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX(Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ส.ค.เพิ่มขึ้น 6.9 ดอลลาร์ หรือ 0.54% ปิดที่ 1,290.4 ดอลลาร์/ออนซ์