ส่วนภาพรวมการท่องเที่ยวในขณะนี้ถือว่าทำได้ดีมาก ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้จากการท่องเที่ยวเกินกว่าเป้าที่วางไว้ โดยประเด็นที่จะต้องแก้ไข คือ การให้ความสะดวกและเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
ส่วนในแง่การจะทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายได้มีการคุยกันหลายเรื่อง ตั้งแต่เรื่องการอำนวยความสะดวกในเรื่องการเดินทางเข้าประเทศไทยให้มีความสะดวกและปลอดภัย รวมถึงการปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยว และภารกิจในด้านต่างๆ เช่น การท่องเที่ยวเชิงกีฬา และการจัดกิจกรรมในเชิงประชุมสัมนาต่างๆ ในระดับบริหารด้านต่างๆ ซึ่งเชื่อว่าการท่องเที่ยวจะทำให้เศรษฐกิจของไทยเดินหน้าไปอย่างดี
ด้านนายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเน้นเรื่องการทำปฎิทินอีเว้นท์ต่างๆ ของประเทศไทยทั้งหมด เช่น วัฒนธรรมประเพณี งานเทศกาลต่างๆ ก็จะจัดทำเป็นปฎิทินออกมา
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้สอบถามถึงการท่องเที่ยวที่ได้ตั้งเป้าไว้ 2 ล้านล้านบาท ว่ามีกิจกรรมหรือทิศทางใดบ้างในการดำเนินการ ซึ่งกระทรวงฯ ได้นำเสนอในหลายรูปแบบ ทั้งการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว การดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งมอบหมายให้ทูตไทยในแต่ละประเทศช่วยศึกษาแนวทางแต่ละประเทศว่ามีอะไรที่เป็นกิจกรรมใหญ่บ้าง และเราสามารถดึงมาจัดในประเทศไทยได้หรือไม่
นายกิตติรัตน์ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่คณะผู้บริหารจาก Fitch Rating มาเข้าพบว่า รัฐบาลได้ยืนยันไปแล้วว่ายังไม่มีแนวคิดที่จะอัดฉีดหรือกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยจะดำเนินการตามนโยบายและโครงการต่างๆ ของรัฐบาลตามที่ได้ประกาศไว้ ไม่ว่าจะเป็นโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อต้องการให้เศรษฐกิจเติบโตในระยะยาว และยกระดับการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจ
พร้อมกันนี้นายกิตติรัตน์ ได้ขอบคุณคณะผู้บริหาร Fitch Rating ที่ปรับระดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยให้ดีขึ้นเมื่อเทียบจากปีที่ผ่านมา