อย่างไรก็ตาม มองว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในเรื่องโครงการบริหารจัดการน้ำวงเงิน 3.5 แสนล้านบาท และโครงการก่อสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง วงเงิน 2 ล้านล้านบาทที่แม้จะยังไม่เกิดขึ้นนั้นจะสามารถช่วยกระตุ้นให้ภาคเอกชนมีการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการลงทุนดังกล่าวของภาครัฐที่จะเกิดขึ้นอนาคต
ประธาน ส.อ.ท.ยังคาดว่าในปีนี้จะสามารถส่งออกรถยนต์ได้มากขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่เน้นการผลิตรองรับความต้องการภายในประเทศเป็นส่วนใหญ่จากโครงการรถคันแรก แต่ในปีนี้จะพลิกกลับมาเป็นการเน้นส่งออกมากขึ้น โดยเม็ดเงินที่ได้จากการส่งออกรถยนต์จะช่วยชดเชยเศรษฐกิจที่ชะลอลงให้ปรับพื้นตัวดีขึ้น ดังนั้น จึงมองว่าจีดีพีในปีนี้คงเติบโตได้ราว 4.8% แต่หากสถานการณ์ไม่ดีอย่างที่คาดอาจจะทำให้จีดีพีเติบโตได้เพียง 4.5%