เงินบาทเปิด 30.91/93 กลับมาแข็งค่าตามทิศทางภูมิภาค รอปัจจัยใหม่

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday July 23, 2013 09:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 30.91/93 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 31.07/08 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามภูมิภาค เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา
"เงินบาทปรับตัวแข็งค่าตามภูมิภาคไปตามข่าวที่เข้ามาเป็นระยะๆ" นักบริหาเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้จะแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ระหว่าง 30.90-31.00 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 99.40/43 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 100.41/43 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3192/3194 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.3104/3107 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 31.1220 บาท/ดอลลาร์
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดสินเชื่อในระบบยังโตต่อเนื่อง สถาบันการเงินส่วนใหญ่ยอมจ่ายต้นทุนสูงขึ้น เพื่อรักษาฐานเงินฝากไว้ ธนาคารพาณิชย์มองระยะต่อไปสถาบันการเงินเฉพาะกิจเพิ่มการแข่งขันการระดมทุนมากขึ้นรองรับแผนการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐ ขณะเดียวกันธนาคารพาณิชย์ใหญ่แข่งขันกันเองมากขึ้น เพราะมีแผนขยายธุรกิจมากขึ้น
  • รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า จากการสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือนในช่วงไตรมาส 1/2556 โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ และคำนวณโดยธปท. พบว่าสัดส่วนรายจ่ายในการชำระหนี้ต่อรายได้เฉลี่ยต่อเดือนของภาคครัวเรือนในภาพรวมอยู่ที่ 33.8% เพิ่มขึ้นจากในปี 2554 อยู่ที่ 29.6% ทำให้ ธปท.ต้องติดตามความสามารถในการชำระหนี้ของภาคครัวเรือน โดยเฉพาะกลุ่มครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำอย่างใกล้ชิด เพราะอาจมีความเปราะบางเพิ่มขึ้นหากเศรษฐกิจไทยชะลอตัวต่อเนื่อง
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้(22 ก.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลยอดขายบ้านมือสองที่หดตัวลงในเดือน มิ.ย. โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ร่วงลง 1.14 ดอลลาร์ ปิดที่ 106.91 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 106.43-108.79 ดอลลาร์ ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์(BRENT) ส่งมอบเดือน ส.ค.ที่ตลาดลอนดอน ขยับขึ้น 8 เซนต์ ปิดที่ 108.15 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้(22 ก.ค.) ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 5 สัปดาห์ที่สัญญาทองคำทะยานขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ เพราะได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ว่าความต้องการทองคำในประเทศจีนจะเพิ่มขึ้น นอกจากนี้สัญญาทองคำยังได้รับปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX(Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ส.ค.ปิดที่ 1,336.00 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 43.10 ดอลลาร์ หรือ 3.33%
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้(22 ก.ค.) หลังจากพรรคเสรีประชาธิปไตย(LDP) ของนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ ชนะการเลือกตั้งสภาสูงของญี่ปุ่น โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 99.58 เยน จากระดับของวันศุกร์ที่ 100.24 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9362 ฟรังค์ จากระดับ 0.9413 ฟรังค์ ขณะที่ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3190 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3136 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.5357 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5262 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.9244 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9193 ดอลลาร์สหรัฐ
  • ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้(22 ก.ค.) ขานรับผลประกอบการของบริษัทเอกชน โดยดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.2% ปิดที่ 300.3 จุด, ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,623.17 จุด ลดลง 7.50 จุด หรือ -0.11%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,331.06 จุด ลดลง 0.51 จุด หรือ -0.01%, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,939.92 จุด เพิ่มขึ้น 14.60 จุด หรือ +0.37%,
  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้(22 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อเก็งกำไร ขณะที่ภาวะการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างซบเซาเนื่องจากสหัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวัง และบริษัทบางแห่งเปิดเผยผลประกอบการที่ผันผวน โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,545.55 จุด เพิ่มขึ้น 1.81 จุด หรือ +0.01%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 3,600.39 จุด เพิ่มขึ้น 12.77 จุด หรือ +0.36%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,695.53 จุด เพิ่มขึ้น 3.44 จุด หรือ +0.20%
  • ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดวันนี้ที่ 14,555.36 จุด ลดลง 102.68 จุด หรือ -0.70% จากการเทขายเพราะได้รับแรงกระตุ้นจากการแข็งค่าของเงินเยนและความวิตกกังวลเกี่ยวกับความร้อนแรงของตลาดหุ้น
  • ธนาคารกลางจีนตัดสินใจที่จะยกเลิกการควบคุมอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของตั๋วเงินคลังและยกเลิกเพดานเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์ในพื้นที่ห่างไกล แต่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับการซื้อบ้านส่วนบุคคลจะไม่ได้รับการปรับเปลี่ยน โดยมีเป้าหมายที่จะรักษาอัตราการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้ยังคงแข็งแกร่ง โดยการยกเลิกการควบคุมอัตราดอกเบี้ยจะช่วยลดต้นทุนในการระดมทุนของบรรดาวิสาหกิจ และยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการใช้ทรัพยากรด้านการเงิน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่แท้จริงและช่วยส่งเสริมการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจด้วย
  • เงินหยวนปรับตัวขึ้น 0.19% แตะที่ 6.1702 หยวน/ดอลลาร์
  • สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ(NAR) เผยยอดขายบ้านมือสองในสหรัฐปรับตัวลดลงในเดือน มิ.ย.หลังจากที่พุ่งทำสถิติสูงสุดในรอบ 3 ปีครึ่งในเดือน พ.ค. โดยยอดปิดสัญญาขายบ้านมือสองสำหรับบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียม ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 5.08 ล้านยูนิตในเดือน มิ.ย.หรือลดลง 1.2% จากสถิติในเดือน พ.ค.แต่เพิ่มขึ้น 15.2% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ