กลุ่มที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุนมากที่สุด คือ การบริการและสาธารณูปโภค ตามด้วยกลุ่มยานยนต์ ชิ้นส่วน โลหะ เครื่องจักร และอุตสาหกรรมการเกษตร
สำหรับการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment: FDI) พบว่า ในช่วงครึ่งปีแรก 2556 มีโครงการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศยื่นขอรับส่งเสริมจำนวน 619 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 279,000 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนใกล้เคียงกับการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศในช่วง 6 เดือนของปี 2555 ที่ผ่านมา
ด้านนายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) กล่าวถึงแนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลัง (ก.ค. — ธ.ค. 56) ว่า ยอดขอรับส่งเสริมตลอดทั้งปี 2556 จะยังมีมูลค่าเงินลงทุนตามเป้าหมายคือ 1 ล้านล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยลบที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการลงทุน มี 4 เรื่อง คือ ภาวะเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวกว่าที่คาด โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีน, ปัญหาการขาดแคลนแรงงานและอัตราจ้างในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น, อัตราดอกเบี้ยในต่างประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสกุลดอลลาร์สหรัฐที่ส่งผลให้เงินทุนไหลออกและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในไทยเพิ่มสูงขึ้นตาม, อุปสงค์ภายในประเทศมีแนวโน้มลดลง และ ตลาดสินค้าหลายประเภทมีแนวโน้มชะลอตัวลงโดยเฉพาะคอมพิวเตอร์
"เป้าหมายครึ่งปีหลังคาดว่ายังมีการลงทุนต่อเนื่อง อยู่ในภาวะที่ดี แต่การเติบโตอาจไม่เท่าครึ่งปีแรก"นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการ BOI กล่าว