ประกอบด้วย การระดมทุนทั้งจากตลาดหลักทรัพย์ (IPO) การระดมทุนผ่านกองทุนทั้ง กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund) และ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) การออกหุ้นกู้ และ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) รวมถึงการระดมทุนรูปแบบใหม่ที่ธนาคารฯ ได้เป็นผู้จัดทำเป็นธนาคารแรกในไทย มั่นใจผลประกอบการเป็นไปตามเป้าหมาย ทั้งรายได้และยอดการปล่อยสินเชื่อ
ทั้งนี้ ทิศทางของตลาดเงินและตลาดทุนยังมีปัจจัยที่เอื้อต่อการลงทุนของผู้ประกอบการได้ อาทิ สภาพคล่องในตลาดที่ยังคงมีปริมาณการลงทุนทั้งจากนักลงทุนในและนอกประเทศ ประกอบกับแนวโน้มดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น ที่กลับเป็นปัจจัยเร่งที่ทำให้ผู้ประกอบการตัดสินใจจัดหาแหล่งเงินทุนก่อนที่อัตราดอกเบี้ยจะสูงขึ้นกว่านี้
ธนาคารฯ มีมุมมองต่อภาพรวมเศรษฐกิจใน 2 ปีข้างหน้าว่ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางหลัก แม้ว่าความผันผวนจะเกิดขึ้นได้ แต่ความต้องการจากตลาดเงินและตลาดทุนยังในภาพรวมยังมีอยู่ จึงยังเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการที่มองหาลู่ทางในการระดมทุนเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของกิจการ ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงต้องเร่งเตรียมตัวให้พร้อมรับโอกาสทางธุรกิจดังกล่าว
ด้านนายวศิน วณิชย์วรนันต์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) คาดว่า ในปี 56 จะมีความต้องการสินเชื่อและระดมทุนโดยธุรกิจรายใหญ่เพิ่มขึ้นมาที่ 7.5% และเพิ่มเป็น 8.0% ในปี 57 เนื่องจากผู้ประกอบธุรกิจขนาดใหญ่ ยังมีความต้องการในการระดมทุนเพื่อรองรับการขยายตัวของกิจการท่ามกลางกระแสการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจที่อาจมีการชะลอตัวในช่วงครึ่งปีหลัง ที่มีการปรับประมาณการ GDP ลงเหลือ 4% จาก 4.8% จากความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ การปรับตัวของเศรษฐกิจจีน และ ความล่าช้าของโครงการภาครัฐ
จากตัวเลขการลงทุนของธุรกิจรายใหญ่ปีนี้เทียบกับปีที่ผ่านมา พบปริมาณของโครงการตลอดจนมูลค่ารวมของการลงทุนยังคงมีอัตราการเติบโตใกล้เคียงกับปีก่อน โดยมูลค่าการลงทุนมีมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท โดยส่วนใหญ่เกิดจากธุรกิจด้านการอุปโภคบริโภคในประเทศ อันเป็นผลพวงของการเติบโตของหัวเมืองใหญ่และการลงทุนขั้นพื้นฐานจากการขยายตัวของโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานที่เพิ่มมากขึ้น แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์การขยายตัวของผู้ประกอบการไทยที่ยังคงแข็งแรงอยู่ ส่งผลให้ความต้องการในตลาดด้านการระดมทุนยังเป็นไปในทิศทางที่ดี ซึ่งธนาคารสามารถระดมทุนให้ลูกค้าได้หลากหลายรูปแบบที่เหมาะสมกับแต่ละธุรกิจ จึงมั่นใจว่าตลาดยังมีความต้องการในการลงทุนเพื่อเตรียมรับมือการเติบโตของเศรษฐกิจที่จะกลับมาดีขึ้นในปีหน้า