(เพิ่มเติม) KBANK โชว์งาน IB ในมือกว่า 1.8 แสนลบ.รับความต้องการสินเชื่อ-ระดมทุนรายใหญ่โต

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 24, 2013 13:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายภานพ อังศุสิงห์ ผู้บริหารสายงานวาณิชธนกิจ ธนาคารกสิกรไทย(KBANK)เปิดเผยว่า ขณะที่สถานการณ์การตลาดที่ความต้องการในการระดมทุนนั้นยังมีความหลากหลาย ซึ่งทางธนาคารเข้าไปมีบทบาทต่อการระดมทุนให้กับธุรกิจขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าโครงการที่ธนาคารกำลังดำเนินการอยู่รวมกว่า 180,000 ล้านบาท

ประกอบด้วย การระดมทุนทั้งจากตลาดหลักทรัพย์ (IPO) การระดมทุนผ่านกองทุนทั้ง กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund) และ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) การออกหุ้นกู้ และ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) รวมถึงการระดมทุนรูปแบบใหม่ที่ธนาคารฯ ได้เป็นผู้จัดทำเป็นธนาคารแรกในไทย มั่นใจผลประกอบการเป็นไปตามเป้าหมาย ทั้งรายได้และยอดการปล่อยสินเชื่อ

ทั้งนี้ ทิศทางของตลาดเงินและตลาดทุนยังมีปัจจัยที่เอื้อต่อการลงทุนของผู้ประกอบการได้ อาทิ สภาพคล่องในตลาดที่ยังคงมีปริมาณการลงทุนทั้งจากนักลงทุนในและนอกประเทศ ประกอบกับแนวโน้มดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น ที่กลับเป็นปัจจัยเร่งที่ทำให้ผู้ประกอบการตัดสินใจจัดหาแหล่งเงินทุนก่อนที่อัตราดอกเบี้ยจะสูงขึ้นกว่านี้

ธนาคารฯ มีมุมมองต่อภาพรวมเศรษฐกิจใน 2 ปีข้างหน้าว่ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางหลัก แม้ว่าความผันผวนจะเกิดขึ้นได้ แต่ความต้องการจากตลาดเงินและตลาดทุนยังในภาพรวมยังมีอยู่ จึงยังเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการที่มองหาลู่ทางในการระดมทุนเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของกิจการ ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงต้องเร่งเตรียมตัวให้พร้อมรับโอกาสทางธุรกิจดังกล่าว

ด้านนายวศิน วณิชย์วรนันต์ รองกรรมการผู้จัดการ KBANK คาดว่า รายได้ค่าธรรมเนียมของธนาคารในปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมายการเติบโต 16% จากช่วงครึ่งปีแรกมีการเติบโตไปแล้วกว่า 12% และในช่วงครึ่งปีหลังหากไม่เกิดปัญหาใดๆร้ายแรงที่จะมีผลกระทบกับเศรษฐกิจโดยรวม ธนาคารก็คาดว่าจะทำรายได้ค่าธรรมเนียมตามเป้าหมายที่วางไว้

สำหรับงานที่ธนาคารมีบทบาทในการระดมทุนให้ธุรกิจรายใหญ่ ยกตัวอย่างเช่น การออกและจัดจำหน่ายตราสารหนี้มูลค่าประมาณ 8 พันล้านบาท การจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน ที่จะใช้ระยะเวลาอีก 6-8 สัปดาห์ในการแปิดตัว 2 กองทุน มูลค่ารวมประมาณ 1 หมื่นล้านบาท และ การควบรวมกิจการ 2-3 ราย โดยมีดีลในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร ขนาดกิจการปานกลาง เป็นดึลที่ต่างชาติมาควบรวมกิจการในไทย และจะยังมีการทยอยออกมาอีกอย่างต่อเนื่อง

นายวศิน กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีหลังภาคธุรกิจเอกชนยังจะมีการระดมทุนในรูปแบบต่างๆอีกอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 57 เนื่องจากการเติบโตของภาพรวมธุรกิจยังเป็นไปได้ด้วยดี โดยเฉพาะในกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งความต้องการในประเทศ รวมถึงความต้องการของประเทศเพื่อนบ้านที่เริ่มมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน

ด้านความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้านั้น ขณะนี้ยังไม่พบปัญหา เพราะปัจจุบันรายได้ของภาคธุรกิจยังมีมากกว่ารายจ่าย

"เรายังมองไม่เห็นสัญญาณการเกิดปัญหาในการชำระหนี้ เราดูแล้วจากกำลังในการชำระหนี้ ก็ยังดีอยู่ เพราะปัจจุบันรายได้ก็ยังมากกว่ารายจ่ายอยู่ แต่ในบางกลุ่มอาจจะมีรายได้ลดลงบ้างเช่น กลุ่มเกษรตกรปีนี้ผลผลิตไม่ค่อยดี ราคาก็ไม่ค่อยดี แต่ในเรื่องการชำระหนี้ก็ยังไม่มีปัญหา"นายวศิน กล่าว

ธนาคารมองว่าทั้งปี 56 จะมีความต้องการสินเชื่อและระดมทุนโดยธุรกิจรายใหญ่เพิ่มขึ้นมาที่ 7.5% และเพิ่มเป็น 8.0% ในปี 57 เนื่องจากผู้ประกอบธุรกิจขนาดใหญ่ ยังมีความต้องการในการระดมทุนเพื่อรองรับการขยายตัวของกิจการท่ามกลางกระแสการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจที่อาจมีการชะลอตัวในช่วงครึ่งปีหลัง ที่มีการปรับประมาณการ GDP ลงเหลือ 4% จาก 4.8% จากความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ การปรับตัวของเศรษฐกิจจีน และ ความล่าช้าของโครงการภาครัฐ

จากตัวเลขการลงทุนของธุรกิจรายใหญ่ปีนี้เทียบกับปีที่ผ่านมา พบปริมาณของโครงการตลอดจนมูลค่ารวมของการลงทุนยังคงมีอัตราการเติบโตใกล้เคียงกับปีก่อน โดยมูลค่าการลงทุนมีมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดจากธุรกิจด้านการอุปโภคบริโภคในประเทศ เป็นผลพวงของการเติบโตของหัวเมืองใหญ่และการลงทุนขั้นพื้นฐานจากการขยายตัวโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานที่เพิ่มมากขึ้น แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์การขยายตัวของผู้ประกอบการไทยที่ยังคงแข็งแรงอยู่ ส่งผลให้ความต้องการในตลาดด้านการระดมทุนยังเป็นไปในทิศทางที่ดี ซึ่งธนาคารสามารถระดมทุนให้ลูกค้าได้หลากหลายรูปแบบที่เหมาะสมกับแต่ละธุรกิจ จึงมั่นใจว่าตลาดยังมีความต้องการในการลงทุนเพื่อเตรียมรับมือการเติบโตของเศรษฐกิจที่จะกลับมาดีขึ้นในปีหน้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ