"ถือเป็นพืชชนิดแรกที่จะดำเนินการตามแผนการทำเกษตรโซนนิ่ง เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่นาดอนจากการทำนา"
เนื่องจากปัจจุบันเกษตรกรมีรายได้จากการทำนาเฉลี่ยเดือนละ 1,000 บาท/ไร่ แต่หากปรับเปลี่ยนมาปลูกอ้อยแทน จะทำให้มีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 7,000 บาท/ไร่ โดยจะมีโรงงานผลิตน้ำตาลที่มีกว่า 40 แห่งเป็นพี่เลี้ยงและรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร และจะทำงานร่วมกับกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ดังนั้น ในช่วงนี้จึงต้องมีการเตรียมพื้นที่และทำความเข้าใจกับเกษตรกรเพื่อจะมีการเริ่มปลูกอ้อยในเดือน ต.ค.-พ.ย.56 เพื่อให้ทันการผลิตหีบอ้อยฤดูกาลหน้า อย่างไรก็ตามต้องทำความเข้าใจและมาจากความสมัครใจของเกษตรกรด้วยในการปรับเปลี่ยนในครั้งนี้
"ตลาดโลกยังมีความต้องการผลผลิตเป็นจำนวนมาก เนื่องจากไทยผลิตอ้อยเพื่อการส่งออกมากกว่าบริโภคในประเทศ พร้อมทั้งยืนยันว่าการส่งเสริมการปลูกอ้อยจะไม่กระทบต่อราคาผลผลิต"นายกิตติรัตน์ กล่าว