"การนำส่งรายได้ภาษีเงินได้นิติบุคคลจำนวนมากในเดือนมิถุนายนส่งผลให้เงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนมีจำนวนสูงกว่า 4 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่มั่นคงมาก และพร้อมรองรับต่อความผันผวนทางเศรษฐกิจและการดำเนินนโยบายของรัฐบาลตลอดปีงบประมาณ 2556" นายสมชัย กล่าว
โดยการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีสรรพสามิตรถยนต์ในช่วงดังกล่าวมีจำนวนสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่องจากการขยายตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ ขณะที่การเบิกจ่ายเงินงบประมาณมีจำนวนทั้งสิ้น 1,853,614 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 124,390 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.2 ทำให้ดุลเงินงบประมาณขาดดุล 238,036 ล้านบาท เมื่อรวมกับดุลเงินนอกงบประมาณที่ขาดดุล 120,501 ล้านบาท เนื่องจากการไถ่ถอนตั๋วเงินคลัง 102,135 ล้านบาท ส่งผลให้รัฐบาลขาดดุลเงินสดรวม 358,537 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล 221,697 ล้านบาท ทำให้ดุลเงินสดหลังกู้ ขาดดุลทั้งสิ้น 136,840 ล้านบาท และเงินคงคลัง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2556 มีจำนวนทั้งสิ้น 423,497 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว