(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิด 31.13/15 อ่อนค่าต่อเนื่อง รอดูสถานการณ์การเมืองในประเทศ

"เงินบาทอ่อนค่าจากวันศุกร์จากปัจจัยเรื่องการเมืองในประเทศที่มีผลต่อตลาดเงินและตลาดหุ้น" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ในกรอบระหว่าง 31.10-31.25 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ 31.1621 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M อยู่ที่ 2.31270% และ THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ 2.32046%

• ปัจจัยสำคัญ

• เงินเยนอยู่ที่ระดับ 97.74/76 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 98.68 เยน/ดอลลาร์
• เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3290/3292 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.3283 ดอลลาร์/ยูโร
• อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 31.1080 บาท/ดอลลาร์
• ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงต่อตามตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในเอเชียรอติดตามผลประชุมคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ(FOMC) ในวันที่ 30-31 ก.ค.นี้ ขณะที่ปัจจัยการเมืองในประเทศยังกังวลกรณีเปิดประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไปในต้น ส.ค.นี้ ที่จะมีการนำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ เข้าพิจารณาในสภาฯ ซึ่งอาจนำมาซึ่งปัญหาความขัดแย้งรุนแรง โดยเมื่อเวลา 09.59 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,461.95 ลดลง 14.76 จุด(-1.00%)
• ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมินว่า การส่งออกในช่วง 5 เดือนแรกที่ขยายตัวเพียง 1.9% เป็นผลจากการส่งออกไปจีนที่ลดลงค่อนข้างมาก ทำให้คาดว่าการส่งออกช่วงที่เหลือของปีนี้จะขยายตัวได้เพียง 3.7% ซึ่งเป็นระดับที่ไม่สูงมากเมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตในอดีต และจากที่คาดว่าปีนี้การส่งออกจะเติบโตได้ถึง 7%
• นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สายตลาดการเงิน กล่าวว่า ในขณะนี้การค้าขายสินค้าระหว่างไทยกับต่างประเทศ เริ่มหันมาใช้เงินสกุลท้องถิ่นในการซื้อขายระหว่างกันมากขึ้น และลดการซื้อขายผ่านเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯลง โดยในการค้าขายระหว่างไทยกับอาเซียนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จากเดิมที่ใช้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นสกุลเงินซื้อขายมากที่สุด ถึง 82.6% ของยอดการส่งออกสินค้าของไทย ณ สิ้นปี 2555 ที่ผ่านมา การซื้อขายผ่านสกุลดอลลาร์ลดลงเหลือ 76.8% เท่านั้น ขณะที่มีการซื้อขายสินค้าด้วยเงินบาทมากขึ้นจากเดิมมีการซื้อขายด้วยเงินบาทเพียง 12.2% ในปี 2551 สิ้นปี 2555 ที่ผ่านมาขยับขึ้นมาเป็น 17.4% หรือเพิ่มขึ้น 5.2% โดยทุกประเทศในอาเซียน มีสัดส่วนการใช้เงินบาทในการค้าขายระหว่างกันมากขึ้น ยกเว้นบรูไน ที่ค้าขายน้ำมันเป็นหลัก ซึ่งต้องอ้างอิงจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แทบทั้งหมด
• กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่น เผยยอดค้าปลีกเดือน มิ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 หลังได้แรงหนุนจากความแข็งแกร่งของการบริโภคในภาคเอกชน อันเป็นผลมาจากภาวะการซื้อขายที่คึกคักในตลาดหุ้นและผลประกอบการที่สดใสของบริษัทเอกชน
• ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีปิดภาคเช้าลดลงในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อพันธบัตรหลังตลาดหุ้นโตเกียวปรับตัวลดลง โดยพันธบัตรหมายเลข 329 ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราดอกเบี้ยระยะยาว ปิดการซื้อขายภาคเช้าที่ระดับ 0.780% ลดลงจากระดับปิดเมื่อวันศุกร์ 0.005% ส่วนราคาสัญญาพันธบัตรอายุ 10 ปีส่งมอบเดือนกันยายน ปรับตัวขึ้น 0.13 จุด แตะที่ระดับ 143.76 ในตลาดหุ้นโตเกียว
• ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียปรับตัวลง ขณะที่นักลงทุนจับตาดูถ้อยแถลงของนายฮารุฮิโกะ คูโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ) และการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) และธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) ในสัปดาห์นี้
• ดอลลาร์ปรับตัวลดลงแตะกรอบบนของระดับ 97 เยน ซึ่งต่ำสุดในรอบเดือนระหว่างการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวเช้าวันนี้ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่คาดกันว่า เฟดจะยังคงดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเป็นนระยะเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ ณ เที่ยงวันนี้ ตามเวลาโตเกียว ดอลลาร์ซื้อขายที่ระดับ 97.72-97.73 เยนเมื่อเทียบกับ 98.22-98.32 ที่ตลาดนิวยอร์กและ 98.70-98.71 เยนที่ตลาดโตเกียว ณ เวลา 17.00 น. เมื่อวานนี้ ส่วนยูโรซื้อขายที่ระดับ 1.3292-1.3294 ดอลลาร์ และ 129.89-129.91 เยนเมื่อเทียบกับ 1.3274-1.3284 ดอลลาร์ และ 130.37-130.47 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 1.3287-1.3288 ดอลลาร์ และ 131.15-131.19 เยนที่ตลาดโตเกียวในช่วงเย็นวานนี้
• นักลงทุนจับตาดูการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด(เอฟโอเอ็มซี) ในระหว่างวันที่ 30-31 ก.ค.นี้ และข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ รวมถึงตัวเลขจ้างงานและผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) นอกจากนี้ยังรอดูการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ และธนาคารกลางยุโรป หลังจากที่ธนาคารกลางทั้งสองแห่งได้ออกมาส่งสัญญาณว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำต่อไป
• China Foreign Exchange Trading System(CFETS) รายงานว่า เงินหยวนแข็งค่าขึ้น 0.15% แตะที่ 6.1705 หยวนต่อดอลลาร์
• นักวิเคราะห์ประเมินดัชนีเช้าวันนี้ผันผวนแกว่งลงในกรอบแคบ ตลาดฯชะลอการลงทุนตั้งแต่สัปดาห์ก่อนเพื่อรอผลการประชุมคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC) และจับตาการเมืองในประเทศที่อาจเกิดความรุนแรงจากการนำร่าง พ.ร.บ นิรโทษกรรมฯ ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ และร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เข้าพิจารณาในการประชุมสภาฯ โดยคาดว่าการแกว่งตัวลงวันนี้จะมีแนวรับที่ 1,460 จุด และแนวต้าน 1,480-1,485 จุด
• สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงขยับลง 9 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 12,390 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือเทียบเท่ากับ 1,340.26 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 0.97 ดอลลาร์สหรัฐ