เงินบาทเปิด 31.27/29 อ่อนค่าต่อ กังวลศก.ชะลอตัว-ห่วงการเมือง

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 31, 2013 09:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.27/29 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 31.24/26 บาท/ดอลลาร์ แนวโน้มปรับตัวอ่อนค่าจากปัจจัยเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัวลงและความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองช่วงเปิดประชุมสภาฯ โดยเมื่อเวลา 09.00 น.เงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.35/37 บาท/ดอลลาร์
"แนวโน้มอ่อนค่าจากปัญหาตัวเลขเศรษฐกิจและปัญหาทางการเมืองที่ตลาดกังวล" นักบริหารเงิน กล่าว

ขณะเดียวกันตลาดยังรอดูผลประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC) ที่ออกมาจะเป็นอย่างไรบ้าง

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 98.06/08 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 98.02/04 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3262/3264 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3264/3267 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 31.2520 บาท/ดอลลาร์
  • จับตาคัดเลือกประธานใหม่ "แบงก์ชาติ" 6 ส.ค.นี้ คาดรู้ผลทันที หลังรายชื่อแคนดิเดททั้งหมดถูกส่งให้ บอร์ดคัดเลือกฯ แล้ว เผยไม่มีรายใดขัดคุณสมบัติเลย ระบุชัดหากที่ประชุมไม่มีข้อสังเกตใดๆ สามารถชี้ขาดได้เลย หลังจากนั้นรายชื่อที่ได้จะถูกส่งให้ รมว.คลัง เพื่อเสนอต่อ ครม. พิจารณาต่อไป
  • หอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพฯ เปิดเผยผลสำรวจแนวโน้มเศรษฐกิจของบริษัทร่วมทุนญี่ปุ่นในประเทศไทย ช่วงวันที่ 23 พฤษภาคม ถึง 24 มิถุนายน 2556 จำนวน 1,453 บริษัท พบว่าสภาพธุรกิจโดยรวมปี 2556 ยังปรับตัวดีขึ้น แต่เป็นทิศทางที่ลดลง เมื่อเทียบกับปี 2555 ซึ่งธุรกิจมีการขยายตัวที่ดีจากอานิสงส์การฟื้นตัวหลังเหตุอุทกภัยใหญ่ปลายปี 2554 ฉะนั้น ค่าธุรกิจที่ลดลง ไม่ใช่เรื่องแปลกใจของธุรกิจและยังถือว่าธุรกิจอยู่ในภาวะปกติ ซึ่งธุรกิจยังเห็นว่าแนวโน้มเศรษฐกิจยังดีอยู่ แต่อาจขยายตัวลดลง และญี่ปุ่นยังให้ความสำคัญต่อการลงทุนในไทยต่อเนื่อง
  • นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ประเมินภาวะเศรษฐกิจไทยและปัญหาข้อจำกัดในการเติบโต มองในระยะสั้นเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงเวลาของการปรับตัวและยังต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน ส่วนระยะยาว การจะให้เศรษฐกิจไทยมีการเติบโตอย่างมั่นคง ต้องมีการเตรียมความพร้อมของประเทศทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านคน ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมถึงด้านตลาดแรงงานที่มีการเติบโตช้าต้องมีการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ซึ่งต้องมีการร่วมมือกันในทุกภาคส่วนมองเห็นเป้าหมายที่ประโยชน์สูงสุดของประเทศ จะทำให้ช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ
  • นายกิตติรัตน์ ณ ระนองรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลและกระทรวงการคลังมั่น ใจว่าร่างพระราชบัญญัติกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท จะไม่ขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้มองว่าร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นและพัฒนาเศรษฐกิจประเทศให้ขับเคลื่อนได้ โดยรัฐบาลได้ศึกษารายละเอียดการลงทุนด้านคมนาคมในระยะยาวแล้ว ซึ่งหากลงทุนอย่างเต็มรูปแบบจะใช้เงินลงทุนจำนวน 4.2 ล้านล้านบาท ขณะเดียวกันการลงทุนในครั้งนี้เป็นการลงทุนเบื้องต้น ซึ่งในกรอบระยะเวลาการลงทุนไม่เกิน 7 ปี
  • นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การส่งออกเดือน มิ.ย.56 ลดลง 3.38% หรือมีมูลค่า 19,098 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ต่อจากเดือน พ.ค.56 จึงทำให้การส่งออกในปีนี้ไม่ดีขึ้น เป็นผลมาจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลัก ทั้ง จีน ญี่ปุ่น สหรัฐ และยุโรป รวมทั้งอาเซียน ชะลอตัว ประกอบกับราคาสินค้าทางการเกษตรโลกโดยรวมปรับตัวลดลง เห็นได้จากมูลค่ากลุ่มสินค้าเกษตรมีอัตราการเติบโตลดลง
  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้(30 ก.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังมีรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐร่วงลงในเดือน ก.ค.ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะรับทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) และข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้(30 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ไตรมาส 2 ของสหรัฐจะชะลอตัวลง ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าอาจจะฉุดรั้งอุปสงค์พลังงานให้อ่อนแอลงด้วย โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ร่วงลง 1.47 ดอลลาร์ ปิดที่ 103.08 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์(BRENT) ส่งมอบเดือน ก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 54 เซนต์ ปิดที่ 106.91 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้(30 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะรับทราบผลการประชุมครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX(Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ส.ค.ปิดที่ 1324.00 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 4.40 ดอลลาร์
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้(30 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) และการเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2 ของสหรัฐ โดยค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 97.97 เยน จากระดับของวันจันทร์ที่ 97.88 เยน แต่ขยับลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9292 ฟรังค์ จากระดับ 0.9303 ฟรังค์ ขณะที่ค่าเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.3264 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3267 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.5244 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5357 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงแตะระดับ 0.9062 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9210 ดอลลาร์สหรัฐ
  • China Foreign Exchange Trading System(CFETS) รายงานว่า เงินหยวนอ่อนค่าลง 0.18% แตะที่ 6.1788 หยวนต่อดอลลาร์
  • ผลสำรวจของมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของญี่ปุ่นในเดือน ก.ค.ลดลงแตะ 50.7 จาก 52.3 ในเดือน มิ.ย. แต่ดัชนีอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้งว่ากิจกรรมภาคการผลิตยังมีการขยายตัว แม้ดัชนี PMI ญี่ปุ่นชะลอลงในเดือน ก.ค. แต่ก็ยังขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ทั้งนี้คำสั่งซื้อใหม่และการส่งออกขยายตัว 5 เดือนติดต่อกัน แม้เป็นไปในอัตราที่ชะลอลง ขณะที่การจ้างงานในภาคการผลิตปรับตัวลง
  • รายงานในเบื้องต้นของสำนักงานสถิติแห่งชาติของสเปน เผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ของสเปนหดตัวลง 0.1% ในไตรมาสที่ 2 ปี 2556 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรก สาเหตุเกิดจากอุปสงค์ภายในประเทศที่ลดลง อันเนื่องมาจากการลดลงของเงินเดือนและอัตราว่างงานที่สูงมากในสเปน ซึ่งเป็นผลพวงมาจากวิกฤตเศรษฐกิจ แต่อุปสงค์ภายในประเทศที่ลดลงบางส่วนได้รับการชดเชยจากการส่งออก
  • สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงขยับขึ้น 10 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 12,350 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวัน หรือเทียบเท่ากับ 1,335.93 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.08 ดอลลาร์สหรัฐ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ