"ตัวเลข CPI ได้ชะลอตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 แสดงให้เห็นว่าแรงกดดันต่อเงินเฟ้อในปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากราคาอาหารสดเริ่มปรับตัวลดลงเข้าสู่ระดับปกติตามสภาพภูมิอากาศที่เอื้ออำนวย โดยเฉพาะราคาผัก-ผลไม้หลายชนิด รวมถึงราคาไข่ไก่ ปรับลดลงตามปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับราคาเนื้อสัตว์มีราคาสูงขึ้นไม่มากนัก" ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ระบุ
นอกจากนี้ สินค้าอุปโภคหลายรายการ ได้แก่ ผ้าอนามัย, สบู่, กระดาษชำระ, แปรงสีฟัน, ผลิตภัณฑ์และป้องกันบำรุงผิว มีการจัดกิจกรรมการส่งเสริมการจำหน่ายทำให้ราคาปรับตัวลดลง ขณะที่ราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศปรับตัวสูงขึ้นไม่มากนัก ส่งผลให้ดัชนีราคาผู้บริโภคเฉลี่ย 7 เดือนต่ำกว่าที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ภาครัฐยังคงมาตรการดูแลด้านค่าครองชีพให้แก่ประชาชน ซึ่งทำให้ภาวะการใช้จ่ายด้านการบริโภคในภาพรวมยังอยู่ในเกณฑ์ดีมีเสถียรภาพ
ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน(Core CPI) เดือน ก.ค.56 อยู่ที่ 103.07 เพิ่มขึ้น 0.85% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือน มิ.ย.56 โดยตัวเลข Core CPI เฉลี่ย 7 เดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้น 1.18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ดัชนีราคาสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มเดือน ก.ค.56 อยู่ที่ 108.62 เพิ่มขึ้น 2.81% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 0.21% จากเดือน มิ.ย.56 ซึ่งเป็นผลจากการลดลงของราคาสินค้าหมวดไข่และผลิตภัณฑ์นม หมวดผักและผลไม้เป็นสำคัญ เนื่องจากเป็นฤดูการผลิต ทำให้มีปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ สินค้าประเภทอื่นๆ ที่มีราคาลดลง ได้แก่ ผลิตภัณฑ์น้ำตาล และเครื่องปรุงอาหาร เป็นต้น ส่วนสินค้าที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว เนื้อสุกร เนื้อโค ไก่สด ปลาและสัตว์น้ำ เป็นต้น
ขณะที่ดัชนีราคาสินค้าที่ไม่ใช่หมวดอาหารและเครื่องดื่มเดือน ก.ค.56 อยู่ที่ 103.51 เพิ่มขึ้น 1.60% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.28% จากเดือน มิ.ย.56 ซึ่งเป็นการปรับตัวสูงขึ้นของราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้นตามภาวะราคาตลาดโลก นอกจากนี้ สินค้าและบริการอื่นๆ ที่ปรับราคาสูงขึ้น ได้แก่ เสื้อผ้า, รองเท้า, ค่าเช่าบ้าน, ปูนซิเมนต์, แผ่นไม้อัด, เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น ขณะที่สินค้าประเภทค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล ได้แก่ ผ้าอนามัย, สบู่, กระดาษชำระ, แปรงสีฟัน, ผลิตภัณฑ์และป้องกันบำรุงผิว มีราคาปรับลดลงเล็กน้อยตามการส่งเสริมการจำหน่าย
ปลัดกระทรวงพาณิชย์ คาดว่า แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในปี 56 จะปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัว ดังนั้นกระทรวงพาณิชย์จึงเตรียมพิจารณาปรับลดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อในปีนี้ใหม่ จากปัจจุบันมีกรอบอยู่ที่ 2.8-3.4% โดยคาดว่าจะมีการประกาศเป้าหมายเงินเฟ้อใหม่ในเดือนก.ย. ซึ่งระหว่างนี้จะขอรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ตลอดจนปัจจัยอื่นๆ ก่อน แต่ยืนยันว่าประเทศไทยยังไม่อยู่ในภาวะเงินฝืด