เงินบาทที่แข็งค่าจากวันศุกร์ตามทิศทางภูมิภาค เนื่องจากคืนวันศุกร์รับรู้ข่าวจากทางสหรัฐที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาแย่กว่าที่คาด และเฟดยังไม่มีการปรับลดมาตรการ QE ยังคงดำเนินการซื้อพันธบัตรต่อไป ทำให้ตลาดตอบรับ และ Major Currency ก็วิ่งไปในทิศทางเดียวกัน
ส่วนประเด็นสถานการณ์การเมืองพอจะทำให้บาทอ่อนได้ แต่ก็ยังต้องจับตาดูต่อไป
"เมื่อวันศุกร์พอขึ้นไปแถว 31.40/42(บาท/ดอลลาร์) เพราะคนคาดการณ์กันว่าเฟดไม่น่าจะลด QE พอขึ้นไปสูงๆ Trader ก็ Short กันไปค่อนข้างเยอะ พอวันนี้ลงมาต่ำก็มีการซื้อปิด แต่มองว่ายังไม่มีปัจจัยอะไรที่จะทำให้เงินบาทอ่อนค่าได้มากนัก" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.30-31.38 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ 31.3133 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M อยู่ที่ 2.27014% และ THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ 2.28539%
*ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 98.93 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 99.78/80 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3272 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.3212/3214 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 31.3930 บาท/ดอลลาร์
- ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ ม.หอการค้าไทย ห่วงนักท่องเที่ยวต่างชาติ ผวาการเมืองไทยบานปลาย หลังรัฐบาลลุย กม.นิรโทษ ขณะที่ประชาชนลุกฮือต้าน ชี้หากลุกลามเป็นวงกว้างยาวนาน ฉุด “จีดีพี"ปีนี้ลงมาอีก 0.5% จากเดิมที่ประเมินเศรษฐกิจไว้ที่ 4.3%
- นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าอาจจะมีการรีบาวด์ในช่วงสั้นหลังการชุมนุมเมื่อวานไม่มีเหตุวุ่นวาย แต่ยังมีความผันผวนในด้านขาลง เนื่องจากนักลงทุนยังคงรอดูการนำ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้าสู่สภาฯ ในวันที่ 7 ส.ค.นี้ที่อาจมีการชุมนุมต่อต้านอีกรอบ ด้านตลาดภูมิภาคเช้านี้ปรับตัวทั้งแดนบวกและแดนลบสลับกัน พร้อมให้กรอบแกว่งไว้ที่แนวรับ 1,405 จุด และแนวต้าน 1,430-1,435 จุด
- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงเช้านี้ โดยการนำของหุ้นกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมและเฮลธ์แคร์
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงพุ่งขึ้น 220 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 12,220 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึง เทียบเท่ากับ 1,321.87 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 23.8ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/7.761 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้
- China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนแข็งค่าขึ้น 0.50% แตะที่ 6.1767 หยวนต่อดอลลาร์
- ธนาคารกลางเกาหลีใต้ เผยทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือน ก.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าสินทรัพย์ที่ไม่ใช่สกุลเงินดอลลาร์ และจากการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของผลตอบแทนจากการลงทุน โดยทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือน ก.ค.ปีนี้พุ่งขึ้น 3.27 พันล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 3.2971 แสนล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับเดือน ก.ค.ปีที่แล้ว ทั้งนี้สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 1.8% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในเดือน ก.ค.ขณะที่เงินเยนแข็งค่าขึ้น 0.4% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ และ ณ สิ้นเดือน มิ.ย. เกาหลีใต้ถือครองทุนสำรองเงินตราต่างประเทศมากเป็นอันดับ 7 ของโลก รองจากจีน ญี่ปุ่น รัสเซีย สวิตเซอร์แลนด์ ไต้หวัน และบราซิล
- ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าร่วงลงในวันนี้หลังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินเยน และตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาดของสหรัฐ รวมทั้งนักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายหลังจากดัชนีนิกเกอิพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงก่อนหน้านี้ โดยดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าร่วงลง 140.48 จุด หรือ 0.97% แตะที่ 14,325.68 จุด
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) เดือน ก.ย.ปรับตัวลง 39 เซนต์ แตะที่ 106.55 ดอลลาร์/บาร์เรล ในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดเอเชียเมื่อ 10.05 น.ตามเวลาซิดนีย์ในวันนี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลด้านแรงงานที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด ซึ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอาจไม่ต่อเนื่อง
- ตลาดหุ้นไทยต้นภาคเช้าร่วงไปแล้วกว่า 10 จุด ขณะที่วอลุ่มยังเบาบางมาก จากสถานการณ์การเมืองในประเทศเป็นปัจจัยกดดัน แม้ผ่านการชุมนุมใหญ่ของกองทัพประชาชนเมื่อวานนี้มาได้ แต่ยังต้องจับจาการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ 7 ส.ค.นี้ โดยเมื่อเวลา 10.10 น. ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,409.76 จุด ลดลง 11.18 จุด (-0.79%)
- ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี ปิดภาคเช้าลดลงในวันนี้ ตามการปรับตัวลดลงของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ โดยพันธบัตรหมายเลข 329 ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราดอกเบี้ยระยะยาว ปิดการซื้อขายภาคเช้าที่ระดับ 0.780% ซึ่งลดลง 0.025% จากระดับปิดเมื่อวันศุกร์ ส่วนราคาสัญญาพันธบัตรอายุ 10 ปีส่งมอบเดือนกันยายน ปรับตัวขึ้น 0.37 จุด แตะที่ระดับ 143.73 ในตลาดหุ้นโตเกียว