พาณิชย์ห่วงสินค้าไทย 4 รายการถูกตัด GSP แนะผู้ส่งออกยื่นคำร้องสหรัฐตามกำหนด

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday August 8, 2013 10:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางปราณี ศิริพันธ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ(USTR) ได้ออกประกาศใน Federal Register ฉบับวันที่ 29 ก.ค.56 เปิดการทบทวนโครงการ GSP ของสหรัฐฯ ประจำปี 2556 เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายทั้งภาคเอกชนและภาครัฐบาลสามารถยื่นคำร้องในการทบทวนดังกล่าวได้

ทั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศ ได้ติดตามภาวะการส่งออกสินค้าภายใต้สิทธิพิเศษฯ GSP สหรัฐฯ ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 56 (ม.ค.-พ.ค.) ปรากฎว่าสินค้าบางรายการอาจมีมูลค่าการส่งออกไปยังสหรัฐฯ เกินเพดานที่สหรัฐฯ กำหนด คือ มีส่วนแบ่งตลาดเกินร้อยละ 50 หรือมีมูลค่าการส่งออกเกินเพดานที่สหรัฐฯ กำหนดไว้ ซึ่งในปี 2556 เท่ากับ 160 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยเบื้องต้นพบว่ามีสินค้าที่อาจส่งออกเกินระดับเพดานที่สหรัฐฯ กำหนดจำนวน 4 รายการ ประกอบด้วย อาหารปรุงแต่ง, เลนส์แว่นตา, กล้องถ่ายโทรทัศน์ และมะม่วงปรุงแต่ง

สำหรับสินค้าที่คาดว่าจะส่งออกเกินเพดานทั้ง 4 รายการ เนื่องจากในช่วง 5 เดือนแรกของปี 56 (ม.ค.-พ.ค.) มีมูลค่าส่งออกไปสหรัฐฯ ค่อนข้างสูง และหากอัตราการส่งออกมีการขยายตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลังอาจทำให้มูลค่าส่งออกเกินเพดานที่สหรัฐฯ กำหนด ซึ่งสินค้าดังกล่าวจะถูกตัดสิทธิ GSP จะต้องเสียภาษีนำเข้าปกติในปีถัดไป

"ขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการและผู้ที่เกี่ยวข้องที่ส่งสินค้าดังกล่าวติดตามสถานการณ์การส่งออกไปตลาดสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด เพื่อยื่นคำร้องขอคงสิทธิ GSP ตามระยะเวลาที่สำนักงานฯ USTR ประกาศไว้" นางปราณี กล่าว

ทั้งนี้ สำหรับสินค้าที่คาดว่าจะมีมูลค่านำเข้าเกินเพดานที่สหรัฐฯ กำหนดนั้น ผู้เกี่ยวข้องสามารถยื่นคำร้องขอผ่อนผันไม่ให้ระงับสิทธิ GSP ได้ภายในวันที่ 22 พ.ย.56 ก่อนเวลา 17.00 น.(เวลาในสหรัฐฯ) ขณะที่ผู้ส่งออก/ผู้นำเข้า หรือผู้เกี่ยวข้องสามารถยื่นคำร้องเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงรายการสินค้าที่ได้รับสิทธิ GSP (Product Petitions) และการดำเนินการของประเทศที่ได้รับสิทธิ GSP (Country Practices) ได้ภายในวันที่ 4 ต.ค.56 ก่อนเวลา 17.00 น. (เวลาในสหรัฐฯ)

นางปราณี กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 17 ก.ค.56 สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ ได้แถลงข่าวในกรรมาธิการว่ามีการเสนอร่างกฎหมายต่ออายุโครงการ GSP ฉบับใหม่เข้าสู่การพิจารณาต่อรัฐสภาสหรัฐฯ ซึ่งมีเนื้อหาเป็นการต่ออายุโครงการออกไปตามเงื่อนไขเดิมอีก 2 ปี 2 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่ 1 ส.ค.56 - 30 ก.ย.58

เนื่องจากขณะนี้โครงการ GSP ได้หมดอายุลงแล้วเมื่อ 31 ก.ค.56 ส่งผลให้ผู้นำเข้าสินค้าที่อยู่ในรายการที่ได้รับสิทธิ GSP จากทุกประเทศที่เคยได้รับสิทธิ GSP รวมทั้งประเทศไทย จะต้องเสียภาษีนำเข้าอัตราปกติ(MFN)ไปยังสหรัฐฯ เริ่มตั้งแต่ 1 ส.ค.56 เป็นต้นไป จนกว่ารัฐสภาสหรัฐฯ จะอนุมัติให้ต่ออายุโครงการ GSP

อย่างไรก็ตาม รัฐสภาสหรัฐฯ จะทบทวนร่างกฎหมายต่ออายุโครงการ GSP อีกครั้งประมาณต้นเดือนก.ย.56 ทั้งนี้หากกฎหมายต่ออายุสิทธิ GSP ผ่านการอนุมัติแล้ว ผู้นำเข้าสหรัฐฯ ที่นำเข้าโดยเสียภาษีอัตราปกติก่อนหน้าการอนุมัติฯ สามารถขอคืนภาษีย้อนหลัง (Retroactive) จากศุลกากรสหรัฐฯ ได้หากสินค้านำเข้าดังกล่าวเป็นสินค้าในรายการที่ได้รับสิทธิ GSP ที่นำเข้าตั้งแต่ 1 ส.ค.56 ซึ่งเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นแล้วหลายครั้งในการต่ออายุโครงการ GSP ตั้งแต่ปี 36-54

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการไทยควรแจ้งผู้นำเข้าขอสงวนการใช้สิทธิ GSP ในเอกสารการนำเข้าสหรัฐฯ (Form 7501) ซึ่งเป็นฟอร์มที่ใช้สำหรับประเมินอากรขาเข้า เพื่อให้ได้รับคืนอากรขาเข้า (Refund) เมื่อกฎหมายต่ออายุ GSP ฉบับใหม่ผ่านรัฐสภาและกำหนดให้มีการยกเว้นภาษีอากรขาเข้ามีผลย้อนหลัง

สำหรับประเทศที่ใช้สิทธิ GSP สูง 3 อันดับแรกในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2556 (ม.ค.-พ.ค.) อันดับแรกอินเดีย มูลค่าการใช้สิทธิ 1,800 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นสัดส่วน 22.79% อันดับสองไทย มูลค่าการใช้สิทธิ 1,386 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นสัดส่วน 17.54% และอันดับสาม บราซิล มูลค่าการใช้สิทธ 1,055 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นสัดส่วน 13.36%

อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกล่าวเพิ่มเติมว่าในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2556 ไทยมีการขอใช้สิทธิ GSP ส่งออกไปยังสหรัฐฯ มูลค่ากว่า 1,380 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสามารถลดหย่อนภาษีนำเข้าได้กว่า 55 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1,660 ล้านบาท โดยสินค้าที่มีมูลค่าการใช้สิทธิพิเศษฯ GSP สูง ได้แก่ ส่วนประกอบเครื่องปรับอากาศ, ถุงมืดยาง, อาหารปรุงแต่ง, เครื่องดื่มอื่นๆ, ชุดสายไฟสำหรับรถยนต์, ผลไม้ปรุงแต่ง, เลนส์แว่นตา และพัดลม เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ