การเติบโตของเบี้ยประกันชีวิตยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยจำนวนเบี้ยประกันชีวิตรับรวมมาจากการขายผ่าน 4 ช่องทาง ได้แก่ ช่องทางตัวแทนประกันชีวิต 110,968.72 ล้านบาทหรือสัดส่วน 51.73% ช่องทางธนาคาร 88,908.51 ล้านบาทหรือสัดส่วน 41.45% ช่องทางการตลาดแบบตรง (โทรศัพท์และไปรษณีย์) 7,020.18 ล้านบาทหรือสัดส่วน 3.27% และช่องทางอื่นๆ 7,636.14 ล้านบาทหรือสัดส่วน 3.55%
สถิติเบี้ยประกันชีวิตรับครึ่งปีแรก หรือเมื่อสิ้นไตรมาส 2/56 ที่สมาคมประกันชีวิตไทยรวบรวมได้ในขณะนี้ มีดังนี้ เบี้ยประกันชีวิตรับรวม 6 เดือน ตั้งแต่มกราคม-มิถุนายน 2556 มีทั้งสิ้น 214,533.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 17.07 บริษัทประกันชีวิตที่มีเบี้ยประกันชีวิตรับรวมสูงสุด หรือมีขนาดใหญ่สูงสุด 5 อันดับแรก คือ อันดับที่ 1 บจ.เอ.ไอ.เอ.สัดส่วนการตลาด 24.09% อันดับที่ 2 บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต 14.00% อันดับที่ 3 บมจ.ไทยประกันชีวิต 11.91% อันดับที่ 4 บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต 10.46% อันดับที่ 5 บม.ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต 10.17% รวม 5 อันดับแรกครองสัดส่วนการตลาด 70.63% และอีก 19 บริษัทครองสัดส่วนการตลาด 29.37%
เบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่ ตั้งแต่มกราคม-มิถุนายน 2556 จะพิจารณาจากจำนวนเบี้ยประกันชีวิตรับปีแรกรวมกับเบี้ยประกันชีวิตรับจ่ายครั้งเดียว ในรอบ 6 เดือนมีทั้งสิ้น 74,189.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนในระยะเวลาเดียวกัน 27.96% 5 อันดับแรก คือ อันดับที่ 1 บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต มีสัดส่วนการตลาด 18.49% อันดับที่ 2 บจ.เอไอเอ 18.11% อันดับที่ 3 บมจ.ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต 11.13% อันดับที่ 4 บมจ.ไทยประกันชีวิต 9.96% และ อันดับที่ 5 บมจ.กรุงไทยแอกซ่าประกันชีวิต 9.30%
ผู้อำนวยการสมาคมประกันชีวิตไทย กล่าวเพิ่มเติมว่าการที่เบี้ยประกันชีวิตมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากการที่บริษัทประกันชีวิตต่างแข่งขันกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลายและมีการประชาสัมพันธ์อย่างทั่วถึงทุกสื่ออย่างต่อเนื่อง การมุ่งเน้นสู่ความเป็นเลิศในการให้บริการทุกๆด้าน การเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้มากขึ้นครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย
และสำหรับเบี้ยประกันชีวิตรับปีต่อไป ตั้งแต่เดือนมกราคม — มิถุนายน 2556 มีจำนวน 140,344.05 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.03 ประเด็นสำคัญคือ อัตราความคงอยู่ อยู่ในระดับที่ดีมากถึงร้อยละ 86 ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้เอาประกันชีวิตที่จะได้รับความคุ้มครองและการออมอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเป็นผลดีต่อการเติบโตที่ยั่งยืนของบริษัทประกันชีวิตทุกแห่งด้วย