ทั้งนี้ การได้พบปะกับผู้นำของทั้งสองประเทศจะเป็นการนำร่องให้ภาคเอกชนเพื่อเข้าไปติดต่อธุรกิจได้มากขึ้นและเป็นการสร้างภาพพจน์อันดีให้กับประเทศไทย
สำหรับ เครือเจริญโภคภัณฑ์ มีการลงทุนในธุรกิจโรงงานอาหารสัตว์ที่ปากีสถานซึ่งเปิดดำเนินการเมื่อไม่นานมานี้และยังมีโรงเพาะฟักไข่ โดยยังเล็งเห็นศักยภาพของตลาดในประเทศที่จะเติบต่อไปในอนาคต ซึ่งขณะนี้เครือเจริญโภคภัณฑ์มีการลงทุนในต่างประเทศรวมปากีสถานแล้วจำนวน 15 ประเทศ
นายสมบัติ กล่าวว่า ตนจะร่วมเดินทางไปกับคณะของนายกฯในครั้งนี้ด้วย ซึ่งการลงทุนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากรัฐบาลปากีสถาน และยังเห็นโอกาสในการขยายการลงทุนอีกหลายธุรกิจ
“การเดินทางไปเยือนทั้งทาจิกิสถานและปากีสถาน จะเป็นประโยชน์กับไทย 4 ด้าน คือ การค้า การลงทุน ภาคบริการและภาพพจน์ของประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักและยอมรับมากขึ้น" นายสมบัติ กล่าว
สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ จะมีพิธีลงนามความตกลง 3 ฉบับ ประกอบด้วยบันทึกความเข้าใจยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทางการทูตและราชการ,การตั้งคณะกรรมการร่วมด้านการค้าระหว่างไทยปากีสถาน และ การตั้งสภาธุรกิจร่วมไทยปากีสถาน