สาขาอัญมณีและเครื่องประดับนั้นจะร่วมมือกันพัฒนาอุตสาหกรรม โดยไทยจะนำเข้าวัตถุดิบคุณภาพดีจากปากีสถาน เช่น ทับทิบ แซฟไฟร์ มรกต โกเมน ควอตซ์ เป็นต้น และช่วยปากีสถานเรื่องการแปรรูปอัญมณีที่ไทยมีความเชี่ยวชาญ
ด้านอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล ไทยจะร่วมมือพัฒนาการผลิตและการตลาดอาหารฮาลาลให้เป็นมาตรฐานสากล เพื่อขยายตลาดไปยังปากีสถาน และกลุ่มประเทศมุสลิมในตะวันออกกลางและเอเชียกลาง ตลอดจนขยายการส่งออกเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมการผลิตอาหารฮาลาลไปยังปากีสถาน ซึ่งในปี 55 ไทยส่งออกเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมไปปากีสถานมีมูลค่า 73 ล้านเหรียญสหรัฐ
ส่วนด้านการประมง ไทยมีความรู้และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีในการถนอมอาหาร จึงมีโอกาสเข้าไปลงทุนตั้งโรงงานแปรรูปและแช่แข็งสินค้าประมง เพราะปากีสถานเป็นประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลที่อุดมสมบูรณ์ โดยในปี 55 ไทยนำเข้าสินค้าในส่วนของประมงเป็นมูลค่า 28 ล้านเหรียญสหรัฐ
และด้านเทคโนโลยีการเกษตร ไทยยินดีให้ความร่วมมือกับปากีสถานในการพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตรในด้านการปลูกฝ้ายและผลไม้เมืองร้อน เนื่องจากไทยมีเทคโนโลยีทางด้านการเกษตรที่ทันสมัย ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรให้กับสินค้าเกษตรที่สำคัญของปากีสถาน
"ไทยให้ความสำคัญกับตลาดปากีสถานในฐานะเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์กำลังจะจัดตั้งสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครการาจี เมืองที่เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักธุรกิจไทยในการขยายการค้าและการลงทุนในปากีสถาน โดยล่าสุดอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ" นายยรรยง กล่าว