การประชุมร่วมกันครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ในการสร้างโอกาสและความร่วมมือ เพื่อที่จะเสริมสร้างการดำเนินธุรกิจที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่ายในด้านต่างๆ เช่น การค้า การลงทุน อุตสาหกรรมและความร่วมมือทางเทคโนโลยี เพื่อให้สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายในการส่งเสริมความสัมพันธ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน โดยที่ประชุมยังมีมติผลักดันการค้าระบบการค้าและความร่วมมือด้านการขนส่งภายใต้กรอบการเชื่อมระบบขนส่งระหว่างทั้งสองประเทศและกลุ่มประเทศอาเซียน หรือ ASEAN Logistics Connectivity พร้อมทั้งนำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาและอุปสรรคของความเหลื่อมล้ำในการเดินทางขนส่งและการคมนาคม ข้อบังคับในการเปลี่ยนถ่ายลังขนสินค้าเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุดอีกด้วย
อนึ่ง สภาธุรกิจไทย-มาเลเซีย ถือได้ว่าเป็นสภาธุรกิจน้องใหม่ที่ได้ก่อตั้งในปีนี้ ตามบันทึกความตกลงว่าด้วยความร่วมมือเพื่อการพัฒนาของเอกชน ที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย ได้ ลงนามร่วมกับดาโต๊ะซรี ฮัจญี โมฮัมมัด นาจิบ บิน ตน ฮัจญี อับดุล ราซะก์ (Dato' Sri Haji Mohammad Najib bin Tun Haji Abdul Razak) หรือ นาจิบ ราซะก์ นายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย ในการสนับสนุนความร่วมมือทางธุรกิจและทางเศรษฐกิจระหว่างภาคเอกชนของทั้งสองประเทศในพื้นที่ชายแดนในสาขาต่างๆ ได้แก่ พลังงานและพลังงานทางเลือก ยางและปาล์มน้ำมัน อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว รวมทั้งส่งเสริม SMEs