เงินบาทปิด 31.91/93 แข็งค่าช่วงสั้นหลังแบงก์ชาติเข้าดูแล แต่แนวโน้มยังอ่อนค่า

ข่าวเศรษฐกิจ Friday August 23, 2013 17:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.91/93 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.02/04 บาท/ดอลลาร์ โดยวันนี้เงินบาทแข็งค่าสุดที่ระดับ 31.91 บาท/ดอลลาร์ และอ่อนค่าสุดที่ระดับ 32.04 บาท/ดอลลาร์

การปรับแข็งค่าขึ้นของเงินบาทในวันนี้ เป็นเพียงการปรับตัวในช่วงสั้นแต่ไม่ใช่แนวโน้มว่าจะกลับมาแข็งค่า โดยสาเหตุหนึ่งที่วันนี้เงินบาทแข็งค่าขึ้นน่าจะมาจากการเข้ามาแทรกแซงจากทางการ

"แนวโน้มบาทตอนนี้ยังไม่น่าจะเป็นทิศทางแข็งค่า แต่เหตุที่วันนี้แข็งค่าขึ้นน่าจะมาจากการแทรกแซง เพื่อชะลอไม่ให้มันร่วงเกินไป การเข้ามา interveen ของทางการไม่ได้ทำให้ trend ของบาทเปลี่ยน เพราะทิศทางจริงๆ บาทน่าจะยังอ่อนค่าต่อ และการที่ตลาดหุ้นไทยยังเป็น net sell ต่อเนื่อง เงินบาทก็จะยังคงอ่อนค่า" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า ต้นสัปดาห์หน้าเงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.85-32.15 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ปิดตลาดวันนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 98.91/92 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 99.04/06 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.3357/3360 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3349/3351 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,338.13 จุด ลดลง 13.68 จุด, -1.01%
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 547.45 ลบ.(SET)
  • น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุ รมว.คลังได้รายงานแล้วว่าเศรษฐกิจไทยยังไม่ได้เข้าสู่ภาวะถดถอย แต่การเจริญเติบในไตรมาส 2 อาจไม่ได้เป็นไปตามคาด ทั้งนี้รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะได้เตรียมแผนรองรับสำหรับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังไว้แล้ว เช่น การเร่งรัดการเบิกจ่ายของภาครัฐ ขณะเดียวกันจะได้พูดคุยภาคเอกชนในการร่วมมือลงทุนให้กระบวนการภาครัฐเร็วขึ้น รวมถึงขอความร่วมมือสร้างความมั่นใจให้ประชาชนในเรื่องของการใช้จ่าย และลงทุนต่างๆ ในอนาคต
  • ที่ประชุมคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติให้ปรับขึ้นค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ(เอฟที) งวดใหม่ คือเดือนก.ย.-ธ.ค.56 จำนวน 7.08 สตางค์/หน่วย จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าจากระดับ 30 บาท/ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 32.08 บาท/ดอลลาร์ รวมถึงต้นทุนราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้นตามปัจจัยจากสถานการณ์โลก เช่น กรณีปัญหารุนแรงในอียิปต์ รวมถึงการใช้ไฟฟ้าของประเทศก็ลดต่ำลงกว่าประมาณการเดิม จึงทำให้ต้นทุนปรับเพิ่มสูงขึ้น
  • มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ประกาศทบทวนเครดิตของธนาคารรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐ 6 แห่ง เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะลดการให้ความช่วยเหลือสถาบันการเงินเหล่านี้ โดยธนาคารที่มีสิทธิถูกลดเครดิต ประกอบด้วย โกลด์แมน แซคส์, เจพี มอร์แกน เชส, มอร์แกน สแตนลีย์ และเวลส์ ฟาร์โก ส่วนอีก 2 แห่ง คือ แบงก์ ออฟ อเมริกา และซิตี้กรุ๊ป ถูกประเมินแนวโน้มความไม่แน่นอน
  • ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดอ่อนตัวลงวันนี้ โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วง 0.2% แตะ 303.03 เมื่อเวลา 08.11 น.ตามเวลาลอนดอน ก่อนที่จะมีการเปิดเผยข้อมูลดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคยูโรโซน และยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐที่จะเปิดเผยคืนนี้
  • เศรษฐกิจเยอรมนีไตรมาส 2 ปีนี้ ขยายตัว 0.7% จากไตรมาสแรก ซึ่งสอดคล้องกับการประเมินเบื้องต้น ซึ่งการลงทุนที่กระเตื้องขึ้นและการบริโภคที่สดใสได้ช่วยหนุนให้เศรษฐกิจของเยอรมนีมีการขยายตัวแข็งแกร่งที่สุดในช่วงไตรมาส 2 เมื่อเทียบกับประเทศอุตสาหกรรมที่สำคัญรายอื่นของโลก
  • เศรษฐกิจอังกฤษไตรมาส 2 ปีนี้ ขยายตัว 0.7% จากไตรมาสแรก เนื่องจากเศรษฐกิจได้รับแรงหนุนจากภาคธุรกิจก่อสร้างและการผลิต ขณะที่การส่งออกขยายตัวสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี
  • สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงเพิ่มขึ้น 50 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 12,780 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,383.16 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ปรับตัวขึ้น 5.41ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ