ป.ป.ช.ชี้มูลอดีตเลขาฯ ปรส.ผิดวินัย-อาญา ปมช่วยเอกชนเลี่ยงภาษี

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday August 27, 2013 18:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มีมติ 5 ต่อ 4 ชี้มูลความผิดนายมนตรี เจนวิทย์การ อดีตเลขาธิการองค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน(ปรส.) ทั้งทางวินัยและอาญา กรณีขายสินทรัพย์กลุ่มสินเชื่อพาณิชย์และสินเชื่อตามสัญญาขายสำหรับการจำหน่ายฯ ให้กองทุนรวมเอเชียรีคอฟเวอรี่ 3 โดยมิชอบ

"คณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงมีมติว่าการกระทำดังกล่าวของนายมนตรี เจนวิทย์การ มีมูลความผิดทางวินัย ฐานไม่ตั้งใจปฏิบัติตามข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง และแบบแผนของ ปรส.และไม่ปฏิบัติหน้าที่การงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต อาศัยอำนาจหน้าที่การงานของตนไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อมหาประโยชน์ให้แก่ตนเองหรือผู้อื่นตามข้อบังคับองค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงินว่าด้วยการพนักงาน พ.ศ.2540 หมวด 4 ข้อ 17 และข้อ 23 และมีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามพระราชบัญยัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา11" มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.ระบุ

ในการไต่สวนข้อเท็จจริงปรากฎว่า นายมนตรีในฐานะเลขาธิการ ปรส.ได้มีหนังสือฯ ลงวันที่ 10 พ.ย.42 ขยายกำหนดระยะเวลาให้ บง.เกียรตินาคิน ผู้ชนะการประมูล แจ้งรายชื่อให้ผู้อื่นลงนามในสัญญาขายมาตรฐานแทน โดยไม่มีการนำเสนอให้คณะกรรมการ ปรส.พิจารณา และไม่เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการ ปรส.เรื่องหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการขายสินทรัพย์หลักของสถาบันการเงินที่ไม่อาจแก้ไขหรือฟื้นฟูฐานะหรือการดำเนินงานได้จำนวน 56 บริษัท ลงวันที่ 2 มิ.ย.41 ข้อ 5 และยังยินยอมให้กองทุนรวมเอเชียรีคอฟเวอรี่ 3 เป็นผู้รับโอนสิทธิจาก บง.เกียรตินาคิน

โดยให้กองทุนรวมเอเชียรีคอฟเวอรี่ 3 ลงนามในสัญญาขายสินทรัพย์กลุ่มสินเชื่อพาณิชย์และสินเชื่ออื่นตามสัญญาขายสำหรับการจำหน่ายเลขที่ FRA07 กลุ่มสินทรัพย์ COS-03 และ COS-09 แทนจาก บง.เกียรตินาคิน เมื่อวันที่ 30 พ.ย.42 ทั้งที่ทราบว่า บง.เกียรตินาคิน แจ้งรายชื่อกองทุนรวมเอเชียรีคอฟเวอรี่ 3 เป็นผู้ทำสัญญาแทนเกินกำหนด 5 วันทำการนับจากวันประมูล และทราบว่าในวันที่แจ้งรายชื่อผู้ลงนามในสัญญาขายมาตรฐานแทนในวันที่ 23 พ.ย.42 บง.เกียรตินาคิน มิได้ยื่นสำเนาหนังสือรับรองการจัดตั้งกองทุน และจดหมายอนุมัติการจัดตั้งกองทุนจาก ก.ล.ต.เป็นหลักฐานประกอบด้วยตามที่กำหนดไว้ในข้อสนเทศการจำหน่ายสินทรัพย์ข้อ 7 ทั้งนี้เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ บง.เกียรตินาคิน หลุดพ้นภาระทางภาษี

กล่าวคือ หาก บง.เกียรตินาคิน ผู้ชนะการประมูล เข้าทำสัญญาซื้อขายสินทรัพย์กับ ปรส.โดยตรงแล้ว ต่อมาขายสินทรัพย์นั้นต่อไปให้บุคคลอื่น จะต้องเสียภาษีทุกประเภทที่เกิดขึ้นตามกฎหมาย จึงได้ยินยอมให้ บง.เกียรตินาคิน ไปจัดตั้งกองทุนรวมเอเชียรีคอฟเวอรี่ 3 ให้เสร็จสิ้น และเข้าทำสัญญาแทน ทันตามตารางเวลาที่กำหนดไว้ในวันที่30 พ.ย.42 เนื่องจากกองทุนรวมเอเชียรีคอฟเวอรี่ 3 ได้รับยกเว้นไม่ต้องชำระภาษีอากร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ