นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวในรายการ"รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน" ถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ที่มีปัญหาจะกระทบกับประเทศไทยว่า การที่สหรัฐอเมริกา รวมทั้งญี่ปุ่นเพิ่มเงินในระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างต่อเนื่อง ทำให้เศรษฐกิจเริ่มคุ้นเคยกับเงินเพิ่มขึ้นเข้าในระบบ เมื่อทิศทางเศรษฐกิจดีขึ้น และมีการลดปริมาณเงินนำเข้าในระบบเศรษฐกิจ ช่วงแรกอาจทำให้เศรษฐกิจกระตุก แต่ก็เป็นผลดีกว่าที่จะเพิ่มเงินเข้าไปในระบบมากเกินไปจนเกิดภาวะเงินท่วมโลก
ดังนั้นจึงไม่รู้สึกกังวลกับภาวะเศรษฐกิจว่าจะกระทบกับประเทศไทย เพราะเงินที่ไหลเข้ามาในระยะสั้น เป็นเหตุผลทำให้ค่าเงินบาทแข็งขึ้นช่วงไตรมาสแรก เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์กับประเทศไทย อีกทั้งไทยมีเงินทุนเพียงพอ ไม่ต้องพึ่งพาเงินทุนจากต่างประเทศ ต่างจากบางประเทศในเอเชีย ที่ขาดดุลการค้า ดุลบัญชีเดินสะพัด จึงต้องการเงินทุนจากต่างประเทศเข้ามาชดเชยในส่วนที่ขาดดุล
นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง อาจกระทบกับประเทศไทยบ้างเล็กน้อย แต่เป็นผลดีกับผู้ส่งออกที่ทำงานได้ง่ายขึ้นด้วย อาจมีผลกระทบกับการนำเข้าสินค้าบางชนิด เช่น พลังงานอาจมีราคาแพงขึ้น แต่การคำนวณเงินเฟ้อของไทยยังส่งสัญญาณที่ดี ดังนั้นผลกระทบด้านลบจากการอ่อนค่าของเงินบาทที่เกิดขึ้นก็น่าจะอยู่ในกรอบที่รับได้ ขณะที่การขาดดุลการค้า อาจกลายเป็นสมดุล หรือเกินดุลได้