นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศเห็นพ้องต้องกันว่าทั้งสองประเทศมีความใกล้ชิดและเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญจึงควรมีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันในทุกระดับอย่างต่อเนื่อง โดยนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อ เฉียง ตอบรับคำเชิญของนายกรัฐมนตรีที่เชิญเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ และนายกรัฐมนตรีจีน ได้เชิญนายกรัฐมนตรีเยือนจีนอย่างเป็นทางการอีกครั้งเช่นกัน
ปัจจุบันจีนนับเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่สุดของไทย และเป็นคู่ค้าอันดับสอง โดยทั้งสองประเทศตั้งเป้าหมายร่วมกันว่าจะเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันให้ได้เป็น 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2015 ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีทั้งสองได้หารือกันในการเพิ่มประสิทธิภาพการค้าระหว่างกันด้วยการจัดการประชุมคณะกรรมการการค้าร่วมระหว่างสองประเทศที่ได้จัดตั้งไว้แล้ว ให้มีการขยายการหารือไปยังการเพิ่มประสิทธิภาพการค้าขายสินค้าเกษตรระหว่างกัน รวมถึงการอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้า รวมถึงไปถึงอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตร
นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อ เฉียง กล่าวว่าเพื่อเป็นการสนับสนุนมิตรภาพระหว่างกันจีนยินดีที่จะซื้อข้าวจากไทยเพิ่มอีก 1 ล้านตัน โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปหารือกันในรายละเอียดต่อไป นอกจากนี้จีนมีความสนใจในยางพาราจากประเทศไทย เพราะเป็นวัตถุดิบต้นน้ำที่สำคัญในกระบวนการผลิตสินค้าอุตสาหกรรม โดยพร้อมที่จะสนับสนุนให้เอกชนจีนเข้าร่วมลงทุนในโครงการแปรรูปยางพาราในประเทศไทยตามข้อเสนอให้เกิดเป็นเมืองแห่งยางพารา หรือ RUBBER CITY ในประเทศไทย
นายกรัฐมนตรีจีน ยังได้สนับสนุนแนวคิดการเชื่อมโยงประชาชนต่อประชาชนด้วยการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง เพราะจีนมีประสบการณ์แล้วพบว่าการสร้างรถไฟความเร็วสูงนั้นสามารถช่วยยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ให้กับประชาชนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังต้องการสนับสนุนการไปมาหาสู่ระดับประชาชนด้วยการเริ่มพิจารณาที่จะยกเว้นการตรวจลงตราหรือวีซ่าให้กับหนังสือเดินทางธรรมดาของไทย โดยย้ำว่าถ้าจีนยกเลิกการตรวจลงตราเข้าประเทศเมื่อไหร่ ไทยจะเป็นประเทศแรกๆ ที่ได้รับการยกเว้นแน่นอน
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีได้เสนอให้มีการประชุมสามฝ่ายเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำแม่น้ำโขงช่วงต้นปีหน้า เนื่องจากสะพานมิตรภาพแห่งที่ 4 (เชียงของ-ห้วยทราย) เตรียมเปิดใช้งานได้ในปีนี้ ซึ่งทางจีนตอบตกลงที่จะส่งรัฐมนตรที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือการจราจรทางน้ำ และบริหารจัดการลุ่มน้ำโขงร่วมกัน นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังได้เสนอให้จีนเข้ามามีส่วนร่วมในโครงการพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ชุมชนในประเทศไทย ซึ่งทางจีนให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่งและพร้อมที่จะส่งบุคลากรเข้ามาหารือกับทางการไทยต่อไป