ทั้งนี้ ที่ประชุมเชื่อว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 2/56 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/56 ถือว่าเป็นไปตามฤดูกาลปกติ แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนก็ยังเติบโตได้ และเชื่อว่าในช่วงครึ่งหลังของปีนี้เศรษฐกิจจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องตามการฟื้นตัวของการส่งออกทั้งสินค้าในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม โดยรัฐบาลจะเร่งผลักดันการส่งออกให้เพิ่มขึ้นด้วย
"ยังมั่นใจภาพรวมเศรษฐกิจในปีนี้จะเติบโตขึ้นแน่นอน และจะดีขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 ส่วนช่วงไตรมาส 2 เป็น trend ของทุกปีที่จะมีอัตราการเติบโตน้อยกว่าไตรมาสอื่น แต่โดยรวมแล้วไตรมาส 2 ปีนี้ก็ดีกว่าปีที่ผ่านๆ มา" นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวภายหลังการหารือ
นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า รัฐบาลจะเร่งรัดผลักดันการส่งออกสินค้า โดยในส่วนของสินค้าอุตสาหกรรมจะเข้าไปช่วยส่งเสริมเรื่องการพัฒนารูปแบบสินค้าที่แตกต่างไปจากอดีต เช่น จากเดิมที่ผลิตฮาร์ดดิสก์ มาเป็นการผลิตไมโครชิพในโทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่กำลังเป็นที่นิยม ส่วนสินค้าเกษตรนั้นยังมั่นใจว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะสามารถขายข้าวได้ดีขึ้น
"การส่งออกในช่วงไตรมาส 3 และ 4 จะดีขึ้นกว่าปีก่อนๆ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้พิจารณาเรื่องตัวเลขว่าจะเติบโตเท่าไหร่"นายนิวัฒน์ธำรง กล่าว
ส่วนปัญหาค่าครองชีพนั้น นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีผู้ผลิตสินค้าเสนอขอปรับขึ้นราคาสินค้าเข้ามา หลังจากมีการปรับขึ้นราคาค่าก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือน 50 สตางค์/กก./เดือน แต่กระทรวงพาณิชย์จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะเข้าไปดูแลการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรให้รวดเร็วขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาชุมนุมเรียกร้องเหมือนกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง
ที่ประชุมยังเห็นว่าควรมีมาตรการแก้ปัญหาราคายางพาราในระยะยาว โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้สั่งการให้นัดผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่ใช้ยางพาราเป็นวัตถุดิบมาหารือในช่วงปลายสัปดาห์นี้หรือต้นสัปดาห์หน้า เพื่อสอบถามแนวทางที่รัฐบาลจะเข้าไปใช้ช่วยสนับสนุนหรือส่งเสริมอุตสาหกรรมดังกล่าวให้เพิ่มกำลังการผลิตได้อย่างไรบ้าง เพื่อเพิ่มความต้องการใช้ยางในประเทศ
นอกจากนั้น นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและ รมช.เกษตรและสหกรณ์ รายงานว่า ในสัปดาห์หน้าจะสามารถเสนอร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรได้